รีวิว Samsung Gear S3 Frontier นาฬิกาอัจฉริยะดีไซน์สุดหรู กันน้ำ กันกระแทก

ซัมซุง ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจริยะรุ่นใหม่ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ Samsung Gear S3 Classic และ Samsung Gear S3 Frontier ในงาน IFA ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 รุ่นก็จะถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน โดยรุ่น Frontier เหมาะสำหรับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง และ Classic ที่คราวนี้ดีไซน์ให้เรียบหรูดูสวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับทีมงานได้รับรุ่น Gear S3 Frontier มาทดสอบ จะเป็นอย่างไร มีจุดดี จุเด่น ตรงไหน ไปดูกันเลยครับ

หน้าปัดกลม จอ Alway On Display กันน้ำ กันกระแทก

samsung gear s3 frontier 1

รุ่นนี้จะเป็นรุ่นต่อยอดจากรุ่นเก่าอย่าง Samsung Gear S2 ซึ่งยังคงใช้งานดีไซน์หน้าปัดกลมอยู่ และยังคงนำ Circular bezel การใช้งานด้วยการหมุนขอบหน้าจอมาใช้ในรุ่นใหม่อีกด้วย โดยมีการดีไซน์ที่ดูหรูหราและสวยงามขึ้นกว่าเดิม

Advertisements

หน้าจอ Super AMOLED ทัชสกรีน ขนาด 1.3 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์ Full Color Always On Watchface แบบเดียวกับในสมาร์ทโฟน Galaxy S7 และ  Galaxy Note 7 เป็นการแสดงผลหน้าจอสีตลอดเวลาให้เหมือนหน้าปัดนาฬิกาจริง ซึ่งต่างจากสมาร์ทโฟนที่เป็นจอขาวดำ

samsung-gear-s3-frontier-2

ตัวกระจกหน้าจอเป็น Gorilla Glass SR+ แบบใหม่ที่แข็งแรงและป้องกันรอยขีดข่วน ตัวเรือนและ Circular bezel ทำจากสแตนเลสสตีลเพิ่มความแข็งแกร่ง ทนทานต่อรอยขีดข่วยในการใช้งานชีวิตประจำวัน หรือกิจกรรมที่ต้องออกไปลุยข้างนอก พร้อมรองรับการกันกระแทกและกันน้ำมาตรฐาน IP68 สามารถลงน้ำได้ลึก 1.5  เมตรนาน 30 นาที แต่ก็ยังไม่เหมาะสำหรับการใส่ลงว่ายน้ำหรือดำน้ำ

samsung-gear-s3-frontier-3

ปุ่ม Home และปุ่ม Back ยังคงถูกวางที่ด้านขวาของตัวเรือน ซึ่ง Gear S3 Frontier จะถูกออกแบบมาเป็นปุ่มกดแบนมีลวดลายพื้นผิวสัมผัสที่ปราณีตสวยงามเหมาะสำหรับการลุยกิจกรรมบ่อยๆ แต่ถ้ารุ่นคลาสสิคจะเป็นแบบปุ่มกดกลมยื่นออกมาตามแบบฉบับนาฬิกาคลาสสิค ด้านล่างมีรูไมโครโฟนวางอยู่

samsung-gear-s3-frontier-4

มีลำโพงอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเรือน สามารถกดฟังเพลง หรือรับสายสนทนาผ่านนาฬิกาได้เลย ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงสายลับหรือขบวนการต่างๆ ที่สามารถคุยผ่านนาฬิกาได้ นั่นคือคุณจะสามารถทำแบบนั้นได้เมื่อใช้ Gear S3

samsung-gear-s3-frontier-5

เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจถูกวางไว้ที่ด้านหลังของตัวเรือน จะเป็นการยิงแสงออกมาที่ข้อมือเพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ในส่วนของด้านหลังนี้ก็จะมีการบอกชื่อรุ่นและวัสดุในการใช้งานไว้ด้วย

samsung-gear-s3-frontier-6

ตัวสายจะใช้ขนาดมาตรฐาน 22 มิลลิเมตร ผู้ใช้งานสามารถหาสายอื่นๆ มาเปลี่ยน ซึ่งการถอดสายออกก็ไม่ยาก เพียงแค่ดันสลักลงมาก็สามารถถอดออกได้แล้ว

samsung-gear-s3-frontier-7

Samsung Gear S3 Frontier เน้นปรับหน้าตาและวัสดุการออกแบบให้ดูสวยงามเทียบเท่านาฬิการะดับไฮเอนท์มากขึ้น แต่ก็ยังเหมาะสำหรับการออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย, ปั่นจักรยาน ตัวเรือนกันน้ำ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าเหงื่อของคุณจะไม่ส่งผลต่อตัสวเครื่อง และยังถอดมาล้างน้ำได้อีก ตัวสายยังคงความสามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อให้เข้ากับการแต่งตัว

Samsung Gear S3 Frontier ลงตัวกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และสมาร์ทโฟน Android ทั่วไป

แน่นอนว่าอุปกรณ์ของซัมซุงนั้นจะรองรับกับสมาร์ทโฟนของซัมซุงเอง แต่ Gear S3 Frontier ก็รองรับสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ เช่นกัน โดยจะต้องเป็น Android 4.4 ขึ้นไป และมี RAM 1.5GB ขึ้นไป สำหรับการเชื่อมต่อใช้งานก็ไม่ยาก โดยจะเชื่อมต่อผ่านบลูทูธด้วยแอปพลิเคชั่น  Samsung Gear ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้จาก Google Play Store

samsung-gear-s3-frontier-with-gear-app

หลังจากการเชื่อมต่อแล้ว ตัวแอปพลิเคชั่น Samsung Gear จะเป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับการตั้งค่าต่างๆ ของ Gear S3 Frontier ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าการแจ้งเตือน, Watch Face, การโอนถ่ายเพลง, รูปภาพไปยังนาฬิกา, การจัดการแอปพลิเคชั่นใน Gear S3 Frontier

samsung-gear-s3-frontier-notifications

การแจ้งเตือน สามารถตั้งให้แจ้งเตือนตอนสมาร์ทโฟนล็อคหน้าจอ หรือแจ้งเตือนพร้อมกันได้ สำหรับการแจ้งเตือนที่นาฬิกาตอนสมาร์ทโฟนล็อคหน้าจอนั้นเพื่อความสะดวกในการดูการแจ้งเตือน ซึ่งการดูแจ้งเตือนบน Gear S3 Frontier นั้นจะใช้การหมุน Circular bezel ไปทางซ้ายของตัวเรือน และสามารถดูรายละเอียดของการแจ้งเตือนต่างๆ เพิ่มได้ ด้วยการหมุน Circular bezel เช่นกัน พร้อมกันนี้ยังสามารถตอบกลับการแจ้งเตือนสำหรับบางแอปพลิเคชั่นจากนาฬิกาได้ อาทิ Gmail, LINE

samsung-gear-s3-frontier-music-control

นาฬิกาสามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมการเล่นเพลงบนสมาร์ทโฟนได้ และสามารถเลือกเล่นเพลงในตัวนาฬิกาเองได้ สำหรับการโอนถ่ายเพลงนั้น จะทำได้ด้วยการเลือกเมนู Send content to Gear จากแอปพลิเคชั่น Samsung Gear

ส่ง SOS ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมแชร์ Location

อีกข้อดีของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้ คือ สามารถส่งสัญญาณ SOS ด้วยการกดปุ่ม Home 3 ครั้ง สัญญาณ SOS นี้จะถูกส่งไปยังหมายเลขที่เรากำหนดไว้ในแอปพิลเคชั่น Samsung Gear S โดยหมายเลขที่ได้รับสัญญาณนี้จะเห็นตำแหน่งพิกัดปัจจุบันและสามารถติดตามหาตำแหน่งภายใน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะกดส่งสัญญาณมาได้อีกด้วย

รับสาย-โทรออก คุยสายผ่าน Gear S3 Frontier

samsung-gear-s3-frontier-call

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า Gear S3 Frontier นั้นมีไมโครโฟนและลำโพงในตัว ทำให้เราสามารถคุยสายผ่านตัวนาฬิกาได้เลย โดยข้อมูลรายชื่อนั้นจะทำการดึงมาจากตัวสมาร์ทโฟน และสามารถกดโทรออก หรือกดรับสายเมื่อมีสายโทรเข้าแล้วคุยสายผ่านนาฬิกาได้ทันที ใครที่ฝันอยากคุยสายผ่านนาฬิกาแบบสายลับหรือขบวนการต่างๆ รุ่นนี้สามารถทำให้ฝันคุณเป็นจริงได้

มี GPS ในตัว เชื่อมต่อหูฟังบลูทูธได้ ออกกำลังกายได้ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟน

samsung-gear-s3-frontier-sport-gps

กับ Gear S3 Frontier สามารถใส่ไปออกกำลังกายโดยที่ไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟน เนื่องจากมี GPS สำหรับระบุพิกัดจากดาวเทียมไปในตัว พร้อมกับมีหน่วยความจำ 4GB สำหรับสำหรับใส่เพลงและเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธเพื่อฟังเพลงไปพร้อมกับการออกกำลังกายได้ ในขณะออกกำลังกายก็จะมีการวัดความเร็ว, ระยะทาง, อัตราการเต้นของหัวใจ โดยแอปพลิเคชั่นหลักในการจัดเก็บข้อมูลการออกกำลังกายนั้นก็คือ S Health นอกจากฟีเจอร์ออกกำลังกายแล้ว ฟีเจอร์อย่างการนับก้าวก็ยังคงมีอยู่ สามารถสวมใส่เพื่อนับก้าวแทนการใช้งานสมาร์ทโฟนได้ เหตุเพราะการสวมใส่นาฬิกานั้นมีโอกาสติดตัวได้บ่อยกว่าพกพาสมาร์ทโฟนนั่นเอง

samsung-gear-s3-frontier-hrm

แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น

samsung-gear-s3-frontier-standalone

เป็นจุดที่ชื่นชอบมากๆ เนื่องจากปัญหานาฬิกาอัจฮริยะหรือสมาร์ทวอชทั่วไปนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาของแบตเตอรี่ที่ไม่อึดเพียงพอสำหรับการใช้งาน แต่รุ่นนี้มีการปรับปรุงได้ดีขึ้น ไม่ต้องชาร์จทุกวันแล้ว จากการใส่ใช้งานทดสอบเชื่อมต่อรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนทั้งวัน พร้อมออกกำลังกายใช้ GPS และฟังเพลงผ่านบลูทูธไปด้วยนั้น มีการใช้พลังงานไปเพียง 30% และยังสามารถใส่ใช้งานทั่วไปต่อไปได้อีก 1-2  วัน

สรุป

Samsung Gear S3 Frontier ถือว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้นมากกว่ารุ่นที่แล้ว ทั้งการดีไซน์ที่ดูเป็นนาฬิกาที่สมจริงมากขึ้น  สเปคภายในที่ดีขึ้น ที่สำคัญคือแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการรวมฟีเจอร์การออกกำลังกายจาก Samsung Gear Fit เข้ามา ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอชสำหรับการใช้งานรับการแจ้งเตือนทั่วไป และสำหรับการออกกำลังกายอยู่ในตอนนี้ ขอแนะนำ Gear S3 Frontier  ที่มีคุณสมบัติพร้อมในราคา 12,900 บาท หาซื้อออนไลน์ได้ที่ www.s-estore.com

คุณสมบัติของ Samsung Gear S3 Frontier

  • หน้าจอ Super AMOLED ทัชสกรีนขนาด 1.3 นิ้ว 360×360 พิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Full Color Always On Watchface กระจกกันรอย Gorilla SR+
  • ขนาดตัวเรือน 46x49x12.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 62 กรัม
  • ขนาดสาย 22 มิลลิเมตร ถอดเปลี่ยนได้
  • หน่วยประมวลผล Dual Core 1.0GHz
  • หน่วยความจำ 4GB, RAM 768MB
  • ระบบปฏิบัติการ Tizen Based Wearable Platform 2.3.2
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2, Wi-Fi, GPS, Glonass
  • แบตเตอรี่ 380mAh ชาร์จแบบไร้สาย
  • รองรับ NFC, MST
  • กันน้ำ, กันฝุ่น มาตรฐาน IP68
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyro, Barometer, HRM, Ambient light

6 thoughts on “รีวิว Samsung Gear S3 Frontier นาฬิกาอัจฉริยะดีไซน์สุดหรู กันน้ำ กันกระแทก

  1. ตกลงรุ่น Frontier มีขายในไทยไหม ที่ร้านบอกว่าจะมีขายแค่รุ่น classic

  2. ใช้รุ่น Frontier อยู่ครับ พบปัญหาว่าจับ GPS ช้ามาก บางทีก็ไม่ติด ขึ้นว่า “Unable to find location. Move to open area” ทั้งๆที่อยู่กลางแจ้ง ฟ้าใสไม่มีเมฆซักก้อน ซื้อมาแรกๆไม่เป็นนะครับ หลังใข้วิ่งไป 10 กว่าครั้งเริ่มเป็นแล้ว งงมาก อาจจะต้องเอาไปเคลมล่ะมั้ง

Leave a Reply