เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง รุ่นล่าสุดในฝั่งของกาแลคซี่โน๊ตซีรี่ย์ที่ใครหลายๆ คนรอคอยกันมาอย่างยาวนานกับเจ้า Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนจอใหญ่พิเศษ ดีไซน์โค้งมนแต่ยังความเหลี่ยมตามสไตล์โน๊ตซีรี่ย์ ที่มาพร้อมกล้องคู่สุดเทพตัวแรกของซัมซุง และก็แน่นอนว่าเราได้รับคำเชิญจากซัมซุงประเทศไทยให้ไปลองสัมผัส และทดลองใช้งานตัวเครื่องจริงแบบใกล้ชิดเรียกได้ว่า Exclusive สุดๆ ฉะนั้นใครที่อยากรู้รายละเอียดของซัมซุงรุ่นล่าสุดตัวนี้ อย่ารอช้ารีบมาดูกันเลยดีกว่าค่าาา ^^
” Samsung Galaxy Note 8 : Do The Bigger Thing “
การออกแบบแนวใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์เดิม
แวบแรกที่เห็นตัวเครื่องจริงๆ เราแอบเหว๋อเล็กน้อยนะ สารภาพตามตรงเลยว่าในสมองแอบรู้สึกว่านางมีความละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้าซัมซุงกาแลคซี่ S8 และ S8+ มากๆ ด้วยตัวสีและตัววัสดุที่เน้นสไตล์ Metal & Glass เช่นกันทำให้รู้สึกเช่นนั้น แต่พอได้ลองสัมผัสตัวเครื่องจริงแล้วก็รู้เลยว่ามีความแตกต่างกันมาก เพราะซัมซุงกาแลคซี่โน๊ต 8 ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ Infinity Display, ปากกา S Pen และกล้องแบบใหม่ที่เป็น Dual Camera ที่ทรงพลังตัวแรกของซัมซุง
ด้วยส่วนประกอบต่างๆ มากมายที่ด้านหน้าและด้านหลังที่มีการจัดฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างเป็นระเบียบจะเห็นได้ว่าพื้นที่ด้านหน้าส่วนใหญ่แทบจะเป็นในส่วนของพื้นที่หน้าจอทั้งหมดเนื่องจากเป็นจอแบบ infinity display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว มาพร้อมขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 74.8 x 162.5 x 8.5 มิลลิเมตร และมีพื้นที่ขอบจอที่บางเป็นพิเศษในอัตราส่วน 18.5:9 ทำให้การใช้งานหน้าจอรู้สึกสบายตาเต็มอิ่มทุกรายละเอียด
และในส่วนของตัวบอดี้ด้านหน้าและหลังใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla glass 5 ที่มีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิมถึง 2 เท่า และในส่วนของด้านข้างตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอลูมินั่มซีรีส์ 7000 ที่มีความมันเงาทำให้ตัวเครื่องดูพรีเมี่ยมมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างซัมซุง Galaxy Note 5 ที่ใช้วัสดุเป็นอะลูมินั่มซีรี่ย์ 5,000 ที่เป็นเนื้อแมตต์
นอกจากนี้ก็ยังมีการผสานดีไซน์โค้งมนเข้ามาตรงมุมทั้งสี่ด้าน แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเหลี่ยมที่เคยมีมายาวนานตามแบบฉบับของกาแลคซี่โน๊ต และที่ขอบด้านข้างตัวเครื่องนั้นจะมีความชันกว่า S8 และ S8+ ที่ทำให้เข้าล็อคพอดีมือเมื่อจับถือ และลดขนาดของขอบจอให้เล็กลงและมีพื้นที่ใช้งานของจอกว้างขึ้นอีกด้วย ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอีกอย่างนึงของการจัดเรียงดีไซน์ใหม่ก็คือ ตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้ S8 และ S8+ จำนวนมากบ่นว่าใช้งานไม่โอเค ก็ถูกปรับตำแหน่งให้ห่างจากตัวกล้องขึ้นมาอีก 1.6 mm เพื่อให้การใช้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้นง่ายขึ้น เท่านั้นยังไม่พอซัมซุงเค้ายังปรับความนูนของตัวกล้องหลังให้มัความนูนขึ้นมาเพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีความนูนออกมาจากตัวเครื่องให้เห็นกันเลยทีเดียว
S-PEN รุ่นใหม่มากความสามารถไปอีกขั้น
ปากกา S-PEN ตัวใหม่นี้มีการพัฒนาในด้านของ Performance การใช้งานให้ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากและเป็นจุดเด่นหลักในโน๊ต 8 รองลงมาจากกล้อง Dual Camera เลยก็ว่าได้ อย่างแรกที่เห็นเลยก็ คือ ประสิทธิภาพในการรองรับแรงกดตัวนี้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 4,096 ระดับ ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงหนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว ปลายปากกาก็ถูกเปลี่ยนมาใช้วัสดุเป็นยางเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอเมื่อใช้งานด้วยแรงกดมากๆ
ที่สำคัญขนาดหัวปากกายังเล็กลงเหลือ 0.7 มิลลิเมตร ตัวปากกาเองก็เบาเพียงแค่ 3 กรัม พอลองวาดรูปเล่นแล้วแบบได้ฟีลเหมือนจับปากกาวาดจริงๆ แถมยังมีลูกเล่นในการสร้างฟีลประหนึ่งว่าจับปากกา คือ ปุ่มตรงด้านท้ายปากกานั้นสามารถกดได้ ให้เกิดฟีลลิ่งเหมือนใช้ปากกาจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอยังมีมาตรฐานการกันน้ำ IP68 ทั้งปากกา และตัวเครื่องมาให้อีกด้วย แต่ดำน้ำไปแล้วจะวาดรูปไปด้วยได้หรือป่าวนั้นทางเราไม่แน่ใจ เดี๋ยวยังไงอันนี้ไว้ได้เครื่องมาจะมาทดลองให้ดูกันอีกทีนะจ้ะ
- Air Command ก็รองรับการใช้งาน S-PEN ที่มากยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชันใหม่ที่หลากหลาย
- Live message ที่สามารถสร้างไฟล์ข้อความเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวคุณเองในกรณีพิเศษเพื่อส่งต่อความสุขแด่คนที่คุณรัก (ใช้รูปถ่ายเป็นพื้นหลังได้ด้วย)และในส่วนของการ
- Translate เพียงใช้ปากกาลากข้อความเพื่อแปลภาษา ใช้ได้ทั้งคำศัพท์ ประโยค รวมไปถึงการแปลงหน่วยหรือมาตรวัดต่างๆ ถัดมา
- Glance ตัวนี้ค่อนข้างมีประโยชน์มากๆสำหรับคนขี้ลืมข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลจำเป็นบางอย่าง เช่น ในกรณีที่แชทกับเพื่อนอยู่แล้วเพื่อนถามเลขบัญชีแต่เราจำไม่ได้ ก็ใช้ฟังก์ชั้นแกลนซ์นี่แหละย่อแอพฯแชทให้เล็กลงเพื่อเปิดแอพฯอื่นๆไปดูข้อมูลที่เราบันทึกไว้แล้วกลับมาตอบในแอพฯที่เราแชทกับเพื่อนได้อย่างรวดเร็ว และ
- Magnify แว่นขยายตัวนี้สามารถขยายในสิ่งที่ที่ต้องการดูแบบเฉพาะจุดได้เลย
- Smart Select ฟังก์ชั่นที่ช่วยครอปวีดีโอบนจอภาพเป็นไฟล์ GIF ความยาว 15 วินาทีได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ครบครัน สะดวกสบายทุกการใช้งาน
- App pair ฟังก์ชั่นจับคู่แอปพลิเคชันที่ใช้งานด้วยกันบ่อยๆ โดยตั้งค่าเก็บไว้ในเอดจ์สกรีนโดยไม่ต้องมานั่งเปิดใหม่ทุกครั้ง
- Always On Display ที่ช่วยให้รับรู้การแจ้งเตือนโดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอและสามารถเมมโมไว้ที่หน้าจอ AOD ได้อีกด้วย
- Screen off memo เป็นอีกฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเก่าเพียงแค่กดปุ่ม จากเดิมที่ต้องเสียบปากกาแล้วถอดเพื่อเปิดใช้งาน และลบการแสดงโน้ตขณะปิดหน้าจอเพียงแค่ใช้ปากกาแตะสองที และรองรับการจดโน้ตสูงสุดถึง 100 หน้าเลยทีเดียว
- Smarter Gallery ฟังก์ชั่นนี้ก็จะเป็นการช่วยในการค้นหา เช่น แคปเจอร์หน้าจอไว้แล้วอยากไปที่เว็ปนั้นอีกก็สามารถไปยัง URL นั้นๆได้ทันทีเพียงแค่มีภาพแคปเจอร์ อารมณ์ประมาณ Snap and go to URL ไรงี้
- Bixby หรือฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ในบ้านเราก็ใช้งานได้แล้ว แต่ยังได้แค่ 2 ภาษาเท่านั้น แต่ก็แว่วๆมาว่า Q3 อาจจะมีเซอร์ไพร์ ยังไงรอดูกันต่อไปจ้าา
DUAL CAMERA กล้องคู่ตัวแรกของซัมซุง
สำหรับกล้องหน้าตัวนี้มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่า f/1.7 พร้อมระบบออโต้โฟกัส และสติกเกอร์แบบ 3D สไตล์น่ารักฟรุ้งฟริ้งที่สามารถเปลี่ยนมุมตามใบหน้าเราได้ ส่วนกล้องหลังคู่ตัวนี้มาพร้อมเลนส์ 2 แบบด้วยกัน คือ เลนส์ไวด์(f/1.7) และเลนส์ Tele (f/2.4) ที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภาพถ่ายถึง 36 % ด้วยกัน และยังมาพร้อมความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซลทั้งคู่อีกด้วย และยังมีมีฟีเจอร์ Dual มาให้ถึง 4 Dual ด้วยกัน ได้แก่
- ดูอัลพิกเซล : ทำให้ระยะใช้เวลาที่ในการโฟกัสลดลง
- ดูอัลคาเมร่า: กล้องคู่ที่มาพร้อม ค่า f/1.7 (เลนส์ Wide) , f/2.4 (เลนส์มุมแคบ) ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี พร้อมทั้งรองรับการซูมออพติคอลแบบกล้องจริงถึง 2 เท่า และซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 10 เท่า
- ดูอัลโอไอเอส : นับว่าโน๊ต 8 เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกเลยทีเดียว ที่ใส่ระบบกันสั่นมาให้ในกล้องคู่ทั้งสองตัว ด้วยเหตุผลที่จะช่วยให้กล้องมีความนิ่งขึ้นในเวลาใช้งานตอนถ่ายเวลาซูมนั่นเอง
- ดูอัลแคปเจอร์ : เป็นการถ่ายภาพครั้งเดียวแต่ได้ภาพถึง 2 ภาพด้วยกัน ทั้งภาพทั้งมุมกว้างและมุมแคบ แถมยังสามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอร่วมกับโหมด Live Focus ที่สามารถปรับฉากหลังเบลอ ณ ขณะนั้นหรือจะปรับหลังจากถ่ายภาพและก็ยังได้ด้วยเช่นกัน
ความบันเทิงไร้ขีดจำกัด พร้อมระบบเสียง 32 BIT สุดสมจริง
จัดเต็มความบันเทิงทั้งทางภาพและเสียง โดยในด้านของระบบเสียง ก็ให้เสียงแบบสมจริงด้วยระดับ HiFi 32 bit พร้อมหูฟังที่ได้รับการจูนเสียงจาก AKG บอกเลยว่าคุณภาพเสียงที่ได้นั้นไม่ธรรมดาแน่นอน นอกจากนี้ยังรองรับความบันเทิงผ่านบลูทูธ 5.0 ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อลำโพงหลายตัวพร้อมกัน และยังมีฟีเจอร์ Seperate app sound ที่สามารถแยกได้ว่าจะให้ออกลำโพงของเครื่อง หรือออกลำโพงอื่นๆ ในขณะที่เราใช้งานแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 แอพฯได้
ระบบ Security ที่ดีเยี่ยมพร้อมขุมพลังสุดร้อนแรง
ในด้านสเปคถือว่ายังอยู่ในระดับเรือธง ทำงานลื่นไหลไม่มีสะดุด แม้จะใช้งานหลายแอพฯ พร้อมๆกัน ไม่ว่าจะดูหนังไปด้วยแชทไลน์ไปด้วยก็ทำได้ดีไม่มีขัดอารมณ์ เพราะมาพร้อมชิพประมวลผลที่ 10 นาโนเมตร Exynos 8895 ตัวเดียวกับ Galaxy S8+ และมาพร้อมหน่วยความจำภายใน 64GB รองรับการ์ด microSD สูงสุด 256GB แรม 6GB แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh รองรับ Fast Charge ด้วยพอร์ต USB Type-C และระบบชาร์จไร้สาย และในด้านของการป้องกันความปลอดภัยก็ให้มาครบถ้วนทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ, ระบบตรวจจับใบหน้า,ระบบสแกนม่านตา และ โหมดความปลอดภัยสำหรับข้อมูลอย่าง Secure Folder
สรุปสเปค
Samsung Product Specification | ||
---|---|---|
Display | 6.3-inch Quad HD+ Super AMOLED, 2960×1440 (521ppi) *Screen measured diagonally as a full rectangle without accounting for the rounded corners *Default resolution is Full HD+ and can be changed to Quad HD+ (WQHD+) in Settings |
|
Camera | Rear: Dual Camera with Dual OIS (Optical Image Stabilization) – Wide-angle: 12MP Dual Pixel AF, F1.7, OIS – Telephoto: 12MP AF, F2.4, OIS – 2X optical zoom, up to 10X digital zoom Front: 8MP AF, F1.7 |
|
Body | 162.5 x 74.8 x 8.6mm, 195g, IP68 (S Pen: 5.8 x 4.2 x 108.3mm, 2.8g, IP68) *Carrying an IP68 dust and water resistance rating. Based on test conditions of submersion in up to 1.5 meters of fresh water for up to 30 minutes |
|
AP | Octa core (2.3GHz Quad + 1.7GHz Quad), 64bit, 10nm processor Octa core (2.35GHz Quad + 1.9GHz Quad), 64bit, 10nm processor *May differ by market and mobile operator |
|
Memory | 6GB RAM (LPDDR4), 64GB/128GB/256GB *May differ by market and mobile operator device features. Actual user memory will vary depending on the operator and may change after software upgrades are performed. |
|
SIM Card | Single: one Nano SIM and one MicroSD slot (up to 256GB) Hybrid: one Nano SIM and one Nano SIM or one MicroSD slot (up to 256GB) *May differ by market and mobile operator |
|
Battery | 3,300mAh Wireless Charging compatible with WPC and PMA Fast Charging compatible with QC 2.0 |
|
OS | Android 7.1.1 | |
Network | LTE Cat. 16 *May differ by market and mobile operator |
|
Connectivity | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM, Bluetooth® v 5.0 (LE up to 2Mbps), ANT+, USB Type-C, NFC, Location (GPS, Galileo*, Glonass, BeiDou*) *Galileo and BeiDou coverage may be limited. |
|
Payment | NFC, MST | |
Sensors | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor, Iris Sensor, Pressure Sensor |
|
Authentication | Lock Type: Pattern, Pin, Password Biometric Lock Types: Iris Scanner, Fingerprint Scanner, Facial Recognition |
|
Audio | MP3, M4A, 3GA, AAC, OGG, OGA, WAV, WMA, AMR, AWB, FLAC, MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA, DSF, DFF, APE | |
Video | MP4, M4V, 3GP, 3G2, WMV, ASF, AVI, FLV, MKV, WEBM |
วันวางจำหน่าย และราคา
ในส่วนของกำหนดการวางจำหน่ายก็จะเป็นช่วงกลางเดือนกันยายนซึ่งจะมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 4 สี คือ Midnight Black, Orchid Gray, Maple Gold และ Deepsea Blue นั่นเอง ส่วนราคารอติดตามความเคลื่อนไหวกันต่อไปค่ะ
ดูไลฟ์งานเปิดตัวย้อนหลัง >> Unpacked 2017 Note8
//To track Impressions use the following URL: //To track Clicks use the following URL: //Note: If you only use the following clicks tracking URL (without using impressions tracking URL above), the flight will be charged according to the click rate (CPC)