สมุดโน้ตจากซัมซุงที่หายไปนาน ในที่สุดก็หวนกลับมาแล้วกับ Samsung Galaxy Note 8 ซึ่งผู้ใช้สมาร์ทโฟนตระกูล Note หลายๆคนก็ตั้งตารอคอยการกลับมา และจากการทดลองใช้สมุดเล่มที่แปดของซัมซุงเล่มนี้บอกเลยว่า ถ้าคุณได้ลองใช้แล้วจะวางไม่ลงเลยล่ะ
เริ่มด้วยหน้าตาโดยรวมของสมุดโน้ตเล่มใหม่
แน่นอนว่าก่อนที่จะรีวิวการใช้งานก็จะต้องพาเจ้าตัวมาแนะนำให้ทุกท่านได้ชมกันก่อน ซึ่งการออกแบบของซัมซุงถือว่าทำการบ้านมาดีมากๆ หลายๆคนคงจะติดตากับสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆพกยากๆ แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้การออกแบบนั้นมีความเล็กลงในระดับที่พอจะถือมือเดียวได้เลย
ด้านบนเป็นเซ็นเซอร์ต่างๆ ลำโพงสนทนา และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลและ Iris Scanner
ขอบข้างด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิดใช้งาน Bixby
ขอบด้านขวาจะมีแค่ปุ่มเปิดปิดเครื่องเท่านั้นครับ
ด้านบนจะมีไมค์รับเสียงสนทนา และถาดใส่ซิมการ์ด
ถากใส่ซิมการ์ดเป็นแบบไฮบริดนะครับ แน่นอนว่าใส่การ์ดความจำภายนอกได้ด้วย
ด้านล่างจะมีแจ็คต่อหูฟัง พอร์ต USB Type-C ไมค์รับเสียงตัวที่สอง ลำโพงหลัก และปากกคู่ใจ S-Pen
ด้านหลังจะมีโครงสร้างโค้งรับกับด้านหน้าเครื่อง โดยจะมีตัวกล้องคู่อยู่ตรงกลาง พร้อมไฟแฟลช ทางขวาจะเป็นตัวสแกนลายนิ้วมือ (รุ่นนี้ทางซัมซุงเค้าปรับปรุงให้ตัวสแกนลายนิ้วมือขยับออกมาจากตรงกลางมากกว่าเดิมเพื่อความสะดวกในการใช้งานนั่นเอง)
Samsung Galxy Note 8 : ที่สุดในทุกๆด้าน ไม่ใช่แค่การจดโน้ต
ในด้านการใช้งานต่างๆโดยรวมแล้วบอกเลยว่าลูกเล่นหลากหลายมากๆเลยครับ โดยถ้าจะให้เล่าละเอียดยิบๆเลยเนี่ยคงจะใช้เวลาในการอ่านพอสมควร ผมเลยขอสรุปเป็นการใช้งานของแต่ละจุดเด่นให้พอเข้าได้ง่ายๆแล้วแปะวิธีการใช้งานซึ่งมีบทความแยกมาให้ได้อ่านกันก่อนหน้านี้แล้ว
ความสามารถที่เพิ่มขึ้นด้วยปากกาคู่ใจ S-Pen รุ่นใหม่
จุดเด่นที่เป็นเหตุผลในการเลือกซื้อรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นปากกคู่ใจล่ะครับ โดยรุ่นใหม่ได้มีการปรับปรุงที่ดีขึ้นกว่าเดิมทั้งในด้านวัสดุและฟีเจอร์การใช้งาน
วัสดุอย่างแรกเลยคือหัวปากกาได้เปลี่ยนวัสดุเป็นยางอ่อนที่ถนอมผิวสัมผัสและมีความบางลง ตัวปากการูปร่างอาจจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก เพิ่มความสามารถกันน้ำเข้าไป(IP68) การันตีเลยว่าตกน้ำก็ไม่หวั่น แถมยังสามารถใช้เขียนใต้น้ำได้อีกด้วยนะครับ(แล้วเอาไปเขียนใต้น้ำทำไมล่ะนั่น? ขำตัวเอง ฮ่าๆ)
ความรู้สึกตอนใช้เขียนบอกได้เลยว่ารู้สึกสัมผัสการเขียนได้ดีขึ้น อาจจะด้วยการลดขนาดหัวปากกาให้ใกล้เคียงปากกาจริงๆ เรื่องแรงกดไม่ต้องพูดถึงครับ รองรับแรงกดให้หลายแบบ เวลาเขียนทำให้รู้สึกเหมือนกดลงไปจริงๆ ปลายปากกาใส่ปุ่มกด(ที่เป็นเพียงแค่ปุ่มกด ไม่ได้ใส่ลูกเล่นอะไรเพิ่ม) ถือเป็นกิมมิกที่คนใช้ปากกาอย่างผมขาดไม่ได้เลยตอนคิดงาน นั่งคิดไปกดเล่นไป เพลินดีเหมือนกัน
คราวนี้มาพูดถึงเรื่องฟีเจอร์กันบ้าง เมื่อคุณถอดปากกาออกมาจากเครื่องคุณจะพบกับไอค่อนปากกาโผล่เข้ามาในจอแสดงผล นี่เป็นฟีเจอร์ที่เรียกว่า Air Command โดยข้างในก็จะประกอบด้วยฟีเจอร์ย่อยๆดังนี้
- LiveMessage : ฟีเจอร์ไว้ใช้ในการวาดเขียนสิ่งที่ต้องการลงไปในภาพถ่าย หรือจะสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ก็ทำได้
- Magnify : ตรงตัวเลยครับ ฟีเจอร์แว่นตาขยายภาพนั่นเอง
- Glance : อันนี้จะเป็นการย่อแอพที่เปิดใว้เป็นหน้าจอเล็กแล้วเราสามารถเปิดแอะอื่นระหว่างที่ย่อแอพนั้นได้ ถามว่าสำคัญยังไง เวลาจำเป็นต้องดูข้อมูลจากแอพอื่นไงล่ะ เช่นเลขบัญชี ข้อความเพื่อนหรือดูที่อยู่อะไรก็ตามแต่
- Smart Select :เก็บช็อตวิดีโอมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว แต่ความยาวไม่เกิน 15 วินาทีนะ
- Coloring : เป็นฟีเจอร์สำหรับสายวาดโดยแท้เลยครับ มีไว้ลงสีในภาพที่เราวาดเก็บไว้(หรือจะโหลดจากในแอพ PenUp ก็ทำได้) แต่โดยส่วนตัวผมไม่ใช่สายวาด เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่
- Translate and Convert : ฟีเจอร์สำหรับสายเที่ยวหรือสายแปลโดยไม่ต้องไปนั่งเปิดแอพแปลแยก อันนี้ผมชอบมากๆ ยิ่งถ้าสายลุยเที่ยวต่างประเทศแบบชิวๆอันนี้ช่วยได้มากเลยครับ วิธีใช้ก็เอาปากกาลากข้อความ ซึ่งจะแปลได้ทั้ง คำ และประโยค รวมถึงแปลงหน่วยต่างๆได้ด้วยนะ
และนอกจากฟีเจอร์ใน Air Command แล้วยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยเวลาจดแบบเร่งด่วนได้ นั่นก็คือ Screen Off Memo นั่นเอง เพียงคุณดึงปากกาออกตอนเครื่องล็อคอยู่คุณก็สามารถเขียนไปได้เลยทันที เขียนต่อเนื่องได้สูงสุด 100 หน้า แถมปักหมุดให้โชวตอนปิดหน้าจอได้ด้วยครับ ใครอยากรู้วิธีใช้ตามมาอ่านบทความเสริมได้ที่นี่ครับ
หน้าจอ Infinity Display ที่ใหญ่และยาวแบบสุดๆ(เอ๊ะ?)
ทางด้านหน้าจอมีขนาดที่เรียกได้ตามหัวข้อเลยครับ 6.3 นิ้ว ใหญ่แบบใหญ่จริงๆ แถมยาวสุดด้วยอัตราส่วนที่ด้านยาวนั้นยาวกว่าชาวบ้าน(แม้กระทั่งรุ่นจอไร้แบรนด์อื่นๆ) 18.5:9 ไม่แปลกใจเลยที่จอจะมีความยาว แต่มีข้อดีคือที่จดเยอะดีครับ เวลาใช้ปากกานี่จดเพลินเลย ด้านความสว่างหายห่วงได้ สู้แดดประเทศไทยได้สบายๆครับ แสง สี สวยตามสไตล์ SuperAMOLED
Dual Camera รุ่นแรกของซัมซุง แต่ใส่กันสั่นคู่เป็นตัวแรกของโลกเลยนะ
กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แบ่งเป็นเลนส์มุมกว้างและมุมแคบ ที่ทำแบบนี้เพราะจะช่วยในการถ่ายภาพแบบละลายพื้นหลังได้ดี ซูมได้ 10 เท่าแบบดิจิตอล(ออปติคอลได้สูงสุด 2 เท่าจ้า) ภาพที่ออกมาสวยงามตามสไตล์เรือธงของซัมซุงเค้าล่ะครับ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี Dual Pixel และ Dual OIS ที่ใส่มาด้วย ซึ่งช่วยให้ภาพที่ถ่ายมีความชัดและนิ่งขึ้น(นิ่งถึงขั้นตอนซูมก็ยังนิ่งได้ เอาสิ โหดป่ะล่ะ?)
ตัวกล้องที่มีคุณภาพดีแล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ Live Focus โหมดถ่ายละลายหลังที่สามารถปรับแต่งการละลายหลังได้ทั้งก่อนและหลังถ่ายภาพ และฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาในการถ่ายภาพมากขึ้นด้วย Dual Capture จะได้ภาพสองรูปจากเลนส์ทั้งสองตัวในการกดถ่ายครั้งเดียว
นอกจากนี้ก็มีโหมดถ่ายภาพเหมือนในซัมซุงเรือธงก่อนหน้า เสริมด้วย 3D Sticker ถ่ายสนุกๆก็ได้เช่นกัน
และผมก็มีตัวอย่างรูปภาพจากตัวกล้องมาฝากกันครับผม
ถ่ายในที่แสงน้อยก็ทำได้ดีมากๆจนน่าตกใจเลยครับ
จบท้ายด้วยรูปจากกล้องหน้าเบาๆ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สวยใช่มั้ยล่ะครับ? อิอิ
Bixby เลขาส่วนตัวสุดฉลาด ยิ่งใช้ ยิ่งฉลาดเข้าไปอีก
เป็นระบบจากทางซัมซุงซึ่งมีความคล้ายกับ Siri และ Goole Assistant แต่ฉลาดกว่าด้วยการออกคำสั่งเสียงยาวๆได้ภายในการพูดเพียงครั้งเดียว หรือถ้าต้องการตั้งค่าคีย์เวิร์ดเฉพาะเป็นการรู้กันระหว่างคนพูดกับเลขาสุดเลิฟก็ตั้งค่าได้เช่นกันครับ ซึ่งในตอนนี้ Bixby จะรองรับการสั่งด้วยเสียงแค่ภาษาเกาหลีกับภาษาอังกฤษนะครับ ภาษาไทยรออีกนิดส์นึง
และตัว Bixby มีการจดจำและเรียนรู้วิธีการพูดและพฤติกรรมได้ด้วยนะครับ ยิ่งเข้าใจคุณมากขึ้นด้วยล่ะ(แต่ผมไม่มีเวลาใช้ขนาดนั้นน่ะสิ) ส่วนใครที่อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดการใช้งาน Bixby ได้เลยครับ
ด้านอื่นๆของสมาร์ทโฟนตัวนี้ก็จัดหนักจัดเต็มตามเคย
ประสิทธิภาพสุดโต่งด้วยชิพประมวลผลอ Exynos 8895 Octa-core 2.3 GHz (ชิพเดียวกับ S8/S8+) ด้านแรมจัดมาเยอะจุใจถึง 6GB ส่วนหน่วยความจำภายในตอนนี้มีรุ่นเดียวคือ 64GB (แต่อย่าเสียใจไปนะ เพิ่ม microSD Card ได้จ้า) ด้านเล่นเกม หายห่วง ลื่นๆ ไม่ร้อน เล่นไปเลยยาวๆ ใช้งานทั่วไปได้เต็มวันเลยล่ะ
ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.1 Nougat อัพเดตได้ยาวๆ แถมด้วยฟีเจอร์เสริม Multi Window และทางซัมซุงพัฒนาการต่อยอดจากการใช้งานแอพคู่เดิมแบบซ้ำๆด้วย App Pair เพราะการใช้งานแบบเดิมๆ ต้องเลือกแอพฯ ทุกครั้งก่อนใช้งาน แต่ App Pair จะจับคู่แอพพลิเคชั่นให้เราและกดเลือกครั้งเดียว และยังสามารถนำคู่แอพพลิเคชั่นจาก App Pair ใส่ไว้ในทางลัด App Edge หรือทางลัดเมนูบนขอบจอโค้งได้อีกด้วยครับ สะดวกกว่าเดิมเยอะ
นอกจากรองรับการสแกนนิ้วมือยังรองรับการสแกนใบหน้าและม่านตาด้วย ความเร็วถือว่าเร็วในระดับนึง แต่ส่วนตัวผมว่าสแกนนิ้วก็เพียงพอแล้วล่ะ แต่ก็มีฟีเจอร์ความปลอดภัยเสริมอย่าง Secure Folder
ด้านการเชื่อมต่อก็ครบๆเลยครับ 4G LTE, Wi-Fi, NFC,Bluetooth รองรับ USB Type-C ระบบชาร์จเร็วและระบบชาร์จไร้สายด้วย
แล้วสมุดเล่มนี้น่าซื้อมั้ย?
ส่วนตัวแล้วถ้าคุณเป็นพวกชอบลูกเล่นแพรวพราว เครื่องสวยๆ ถ่ายภาพดีๆ และชอบในการใช้งานด้านจดหรือวาด นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะ ถึงจะราคาค่อนข้างสูงเลยก็ตาม แต่ประสิทธิภาพและลูกเล่นโดยร่วมถ้าคุณชอบแล้ว มันก็คุ้มค่าใช่มั้ยล่ะ? ส่วนใครที่กังวลว่าเครื่องจะใหญ่ ไม่ต้องกังวลเลยครับ ถ้าเทียบขนาดหน้าจอนี่บอกเลยว่าเล็กจนน่าตกใจเลยล่ะ (ขนาดคนมือเล็กๆอย่างผมยังถือมือเดียวได้อะคิดดู)
ยังไงก็ตาม นี่เป็นเพียงรีวิวเล็กที่ช่วยในการตัดสินใจนะครับ แนะนำว่าควรไปลองสัมผัส Samsung Galaxy Note 8 ด้วยตนเองจะดีกว่านะ ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไปเลยครับ
สเปคอย่างเป็นทางการของ Samsung Galxy Note 8
ขนาด, น้ำหนัก | 162.5 x 74.8 x 8.6 มิลลิเมตร, 195 กรัม |
SIM Card | Nano SIM+Nano SIM (สลอตไฮบริด) |
แบตเตอรี่ | Li-ion 3,300 mAh / QuickCharge 2.0 / Wireless Charge |
เครือข่าย
2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz |
3G | 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz |
4G | 700 / 800 / 850 / 900 / 1800 / 1900 / 2100 / 2500 / 2600 MHz |
หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน | 64 GB / RAM 4 GB |
หน่วยความจำภายนอก | microSD สูงสุด 256 GB |
จอแสดงผล
ขนาด | 6.3 นิ้ว |
ความละเอียดและความหนาแน่น | 1440 x 2960 พิกเซล (521 PPI) |
ชนิดและจำนวนสี | Super AMOLED 16 ล้านสี / Corning Gorilla Glass 5 / Always On Display / รองรับปากกา S Pen |
ระบบ
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | Exynos 8895 Octa-core |
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Mali-G71 |
ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | Android 7.1.1 (Nougat) |
การเชื่อมต่อ
Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot |
Bluetooth | รองรับ (v5.0, A2DP, EDR, LE) |
NFC | รองรับ |
USB | USB Type-C 3.1 |
ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS, BDS GALILEO) |
มัลติมีเดีย
กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
ความละเอียด | กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล / 8 ล้านพิกเซล |
คุณสมบัติ | รูรับแสง F/1.7 / ซูมออพติคอล 2 เท่า / Dual OIS / Live Focus / dual-tone LED Flash / 3D Sticker |
กล้องวิดีโอ | |
ความละเอียด | 3840 x 2160 (UHD 4k) / 2560 x 1440 (Full HD 2k) |
คุณสมบัติ | เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ / Slow Motion / Hyperlapse |
วิทยุ | ไม่มี |
อื่นๆ | ระบบสแกนม่านตาและใบหน้า / สแกนลายนิ้วมือได้ / ปากกา S Pen |
ราคาเปิดตัว 33,900 บาท
ส่วนตัวผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ ตบท้ายด้วยโน้ตเบาๆ อิอิ