เมื่อต้นเดือนเมษายนก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S4 สมาร์ทโฟนระดับ High-end ของปีนี้จาก Samsung มาในคอนเซปต์ “Life companion มือถือที่จะเป็นทุกอย่างให้คุณ” เน้นไปที่ความสะดวกสบายในการใช้งานค่ะ
รุ่นนี้บางเพียงแค่ 7.9 มิลลิเมตร หนักแค่ 130 กรัม จับครั้งแรกประทับใจกับหน้าจอที่แสดงผลได้คมชัด และสีสรรสดใส UI แบบใหม่ที่มีลูกเล่นบนหน้าจอ Lock screen ที่ดูหรูหราเชียว จอขนาด 5 นิ้ว ไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องใหญ่จนเกินไป คุณผู้ชายที่ชอบใส่มือถือไว้ที่กระเป๋ากางเกงก็ไม่รู้สึกหนัก และเทอะทะแน่นอน ตัวเครื่องที่ได้มาทดสอบเป็นสีดำ Black Mist ค่ะ แต่จะออกเงาๆ น้ำเงินเหมือน Galaxy S3 มากกว่า ดีไซน์หรูหราด้วยฝาหลังของ Samsung Galaxy S4 ที่เพิ่มลวดลายขึ้นมาให้ดูสวยแปลกตาไปจากรุ่นก่อนๆ โดยรุ่นนี้ใช้พลาสติก Polycarbonate เป็นวัสดุหลัก เดี๋ยวไปดูแต่ละส่วนของเครื่องกันค่ะ
Samsung Galaxy S4 นี้มาพร้อมกับจอระดับ Full HD 1080p (ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล) กว้าง 5 นิ้ว ชนิด Super AMOLED (441 ppi) ให้สีที่สวยงามและความละเอียดภาพที่ดีกว่า กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิม ข้างๆ ลำโพงสนทนามีเซ็นเซอร์วัดแสง RGB Light Sensor (Samsung Adapt Display) ที่คอยวัดค่าของแสง สำหรับการปรับความสว่างและความคมชัดของหน้าจอโทรศัพท์, อีกตัวถัดไปจากลำโพง จะเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Gesture Sensor) โดยใช้อินฟาเรด เป็นตัวที่ใช้ทำงานบนฟีเจอร์ Air Gesture นั่นเองค่ะ และเซ็นเซอร์วัดระยะห่าง (Proximity Sensor) ที่ใช้ทำงานบนฟีเจอร์ Direct call และริมขวาสุดเป็นกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านล่างของหน้าจอจะพบกับแผงปุ่มเมนูแอนดรอยด์แบบสัมผัสสำหรับเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เห็นจนคุ้นเคย มีปุ่ม Home และปุ่ม Menu ที่ด้านซ้าย และปุ่ม Back ที่ด้านขวา ไฟจะสว่างขึ้นมาเมื่อใช้งานค่ะ
ด้านขวาของ Samsung Galaxy S4 มีปุ่ม Power สำหรับเปิด – ปิดเครื่อง และใช้ในการล็อค / ปลดล็อคหน้าจอ และเมื่อกดค้างก็จะมีเมนูลัดต่างๆ ให้เลือกใช้งานได้ และช่องสำหรับแกะฝาหลังได้ย้ายมาอยู่ตรงนี้ด้วย
ส่วนด้านซ้ายจะพบกับปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม / ลดเสียง และใช้ในการซูมภาพเข้า – ออก เมื่อใช้งานกล้อง
ด้านบนของ Samsung Galaxy S4 ก็จะพบกับช่องเสียบชุดหูฟังสเตอริโอมาตรฐานขนาด 3.5 มม. มีรูไมโครโฟน และซ้ายสุดน่าจะเป็น Infrared ที่ใช้ในการควบคุมเหมือนเป็นรีโมทคอนโทรลค่ะ
ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต micro USB สำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อสายดาต้าลิงค์ ใกล้ๆ กันคือไมโครโฟนสำหรับสนทนา ส่วนด้านล่างตรงฝาหลังนั่นจะเป็นลำโพงหลังของเครื่องค่ะ
ด้านหลังของ Samsung Galaxy S4 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมลูกเล่นใหม่ๆ มากมาย (ดูได้ที่ตอนท้ายของรีวิวค่ะ) พร้อมไฟแฟลช LED
ทางด้านประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy S4 ต้องไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังอยู่แล้ว เพราะได้พัฒนาชิปเซ็ตให้ก้าวหน้าอยู่ทุกๆ ปี ด้วยชิปเซ็ต Exynos 5 Octa 8 Core บนมือถือเป็นตัวแรกของโลก โดยใช้สลับการทำงานระหว่าง Cortex-A15 4 Core รันที่ 1.6GHz และ Cortex-A7 4 Core รันที่ 1.2GHz ใช้ GPU ของ PowerVR SGX 544MP3 และให้ RAM 2GB เพื่อช่วยให้การใช้งาน Multitasking เป็นไปได้อย่างราบรื่น ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 (Jelly Bean) ส่วนหน่วยความจำในตัวเครื่องวางจำหน่ายในบ้านเราเป็นขนาดยอดนิยม 16GB และสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดที่ 64GB แบตเตอรี่ให้มา 2600 mAh
ด้านความ Smart ของ Samsung Galaxy S4 ก็เป็นจุดเด่นที่ Samsung ยินดีนำเสนอให้ผู้ใช้งานทุกๆ ครั้งที่เปิดตัวมือถือใหม่ โดยรุ่นนี้มีการพัฒนาให้มือถือฉลาดมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันอาจจะเกิดขึ้นจากความขี้เกียจของมนุษย์ก็ได้นะ อย่างเช่น Smart pause ในขณะที่กำลังเล่นวีดีโอบนเครื่อง เซ็นเซอร์จะจับความเคลื่อนไหวของศรีษะ เมื่อเราหันหน้าไปทางอื่น วีดีโอจะหยุดการเล่นไว้ชั่วคราว
Smart scroll ที่สามารถเลื่อนหน้าจออัตโนมัติขณะที่กำลังอ่านอีเมล์หรือ Browser เมื่อเราขยับสายตาโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอแต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ว่า ฟังก์ชั่นนี้จะใช้งานไม่ได้ถ้าอยู่ในที่มืด, ถ้าเครื่องสั่นไหว, กล้องไม่สามารถจับเจอลูกตาเราได้ โดยเลือกได้ว่า ต้องการเอียงหัว หรือเป็นการเอียงเครื่อง ซึ่งจากการทดสอบ เอียงหัวขึ้นลง ค่อนข้างเวียนหัวใช้ได้ทีเดียวค่ะ แล้วก็ปรับความช้า-เร็วของการเลื่อนหน้าเพจได้ด้วย
อีกอย่างที่เพิ่มมาใหม่สำหรับรุ่นนี้ Air Gesture เป็นฟีเจอร์ที่ทำงานด้วยเซ็นเซอร์ของเครื่อง โดยการจับความเคลื่อนไหวของมือเราในการรับคำสั่งค่ะ
สำหรับการทดสอบ ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ฟีเจอร์ Air Gestures ค่อนข้างใช้งานยาก และออกจะไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเราเลย เผลอๆ Air move นั้น ใช้นิ้วเลื่อนๆ จะเร็วและสะดวกกว่า แล้วก็ Air call-accept ไม่สะดวกเอาซะเลย แต่สำหรับคนอื่นๆ อาจจะได้ใช้งานได้ดีก็ได้ ถ้าใครลองใช้งานแล้วมา feedback ให้กันฟังบ้างนะคะ
สำหรับ Infrared ที่ให้มาก็ไว้ใช้สำหรับฟังก์ชั่น Watch-on ที่สามารถเล่นวีดีโอบนมือถือ และให้ไปแสดงผลออกจอทีวีในบ้าน และใช้มือถือแทนรีโมทคอนโทรล ฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์มากในการใช้งานควบคุม Presentation ค่ะ และยังมี S Translator ที่ช่วยแปลภาษาในรูปแบบข้อความหรือเสียงได้ถึง 9 ภาษา และ แอพ S Health สำหรับคนรักสุขภาพอีกด้วย
Samsung Galaxy S4 มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ความละเอียดสูงสุดแบบ 4:3 ขนาด 4128×3096 พิกเซล มาครบทั้งออโต้โฟกัส และไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอความชัดระดับ FullHD 1080p ขนาด 1920×1080 พิกเซล (16:9) ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง มีฟังก์ชั่นมากมายให้เลือกใช้ถึง 12 โหมด อย่างเช่น Auto, Best face, Rich tone (HDR) ฯลฯ และในแต่ละโหมดก็มีคำอธิบายในการใช้งานด้วย มีเอฟเฟคอีกมากมายให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น Sepia, Vintage หรือภาพแบบ pastel ก็มีให้เลือกใช้แทบไม่ต้องใช้แอพอื่นเพิ่มเลย กล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แต่ที่ใหม่สุดและคิดว่าหลายๆ คนคงจะต้องอยากลอง นั่นคือฟังก์ชั่น Dual Shot ที่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในส่วนนี้จะรีวิวเฉพาะฟังก์ชั่นกล้องแยกเป็นอีกบทความจะละเอียดกว่าค่ะ
Connectivity
Samsung Galaxy S4 รองรับ 3G ครบทุกค่าย 850/900/1900/2100 MHz ไม่แยกขาย ใช้งานซิมการ์ดแบบ Micro Sim รองรับการใช้งาน AllShare Play สามารถสตรีมคอนเท้นอย่างเช่นวีดีโอไปแสดงผลบนจอทีวีหรืออุปกรณ์อื่น ที่รองรับ DLNA ได้ หรือการส่งผ่านไฟล์ขนาดใหญ่ผ่านฟังก์ชั่น S Beam เพียงแค่เอาด้านหลังเครื่องแตะกัน เพื่อนส่งข้อมูลขนาดใหญ่ กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับได้เร็วกว่าผ่าน NFC ธรรมดา รวมถึงการแชร์ภาพถ่ายอัตโนมัติผ่าน Wi-Fi Direct ได้อีกด้วย
Entertainment
เครื่องเล่นเพลงของ Samsung Galaxy S4 แบ่งการแสดงผลรายชื่อเพลงออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งการแสดงตามอัลบั้ม, รายชื่อศิลปิน, เพลย์ลิสต์ และแบบ มิวสิค สแควร์ โดยเป็นการเล่นเพลงตามอารมณ์เช่น สนุกสนาน หรือเพลงช้าๆ โดยเครื่องจะสุ่มเลือกเพลงทั้งหมดในเครื่องมาให้ ในส่วนของวิทยุ FM ได้ถูกตัดออกไปโดยทาง Samsung ได้ให้เหตุผลว่าผู้ใช้งานในปัจจุบัน เข้าถึงสื่อดิจิตอลสูงขึ้น โดยเฉพาะการฟังเพลงออนไลน์บน YouTube ทำให้เน้นไปที่การใช้งานส่วนนี้มากขึ้น
Samsung ได้ใส่ฟีเจอร์ Group Play ที่สามารถเปิดเพลงบนมือถือมากกว่า 1 เครื่องโดยผ่าน Wi-Fi access point มาให้ ส่วนฟังก์ชั่นของ Popup Play ก็ยังอยู่ค่ะ และมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของแอพดูวีดีโอให้ดูทันสมัยขึ้น มีพรีวิววีดีโอแบบ Thumbnail ให้ดูด้วย
Samsung Galaxy S4 นั้นนับว่าโดดเด่นด้านการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ให้ล้ำหน้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น CPU 8 Core ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือการแสดงผลบนหน้าจอ FullHD แบบ Super AMOLED สะดุดตากว่า ดีไซน์ตัวเครื่องให้กระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก มีหน้าจอขนาดใหญ่เหมาะทั้งทำงานและความบันเทิง สำหรับใครที่ชอบเล่นเกมส์และลงแอพพลิเคชั่นใหญ่ๆ หายห่วงด้วยประสิทธิภาพเครื่องที่เรียกว่าเร็วล้ำหน้ากว่าใครในตอนนี้เลยทีเดียว รวมไปถึงการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้การใช้งานมือถือสะดวกกว่าด้วย Smart pause หรือ Smart scroll ถึงแม้จะยังไม่เผยราคา แต่ก็ไม่น่าจะทิ้งห่างตัวท๊อปในปีก่อนๆ
ส่วนราคานั้น เปิดตัวที่ 21,900 บาท มีทั้งสีขาว และสีดำ ส่วนสีไหนจะขายก่อน หลัง หรือพร้อมกันก็ต้องรอดู แต่แน่นอนค่ะว่าใกล้กลางปีแล้ว ก็ต้องรอดูมหกรรมมือถือกลางปีนี้กับงาน Thailand Mobile Expo 2013 Hi-end ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนพฤษภาคมนี้ หวังว่าจะมีโปรโมชั่นดีๆ และของแถมเด็ดๆ ไว้รอแฟนๆ อยู่แน่นอน แต่ถ้าอยากใช้ก่อนใคร ก็จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 3 พฤษภาคม 56 นี้ ไปซื้อหามาเป็นเจ้าของกันได้เลย
ขอวิธีตั้งค่าต่างในs4หน่อยครับ
จะทยอยลงให้เรื่อยๆ นะคะ
้ผมว่า air gesture กับ air move แหละเป็นสิ่งที่ผมตามหามานานละ เวลามือเลอะจะเลื่นเว็บก็ไม่ได้ ดูวิดีโอก็ไม่ได้ แต่ air gesture กับ air move ช่วยได้นะครับ (ปล.ผมใช้ Note8 แล้วรู็สึกว่า air view ช่วยเลื่อนจอและพรีวิวภาพและวิดีโอได้ แต่บางทีก็ขี้เกียจถือปากกาเลยชอบ air gesture มากกว่า)
สอยมาแล้ว ได้สองอาทิตย์ ก็ดี ใช้งานง่าย บันทึกภาพจากเฟสบุ๊คยากไปหน่อย ไม่มีเมนูให้ น่ามีแอปมาอัพเดทนะบริษัทฝากด้วย