สรุป 4 ฟีเจอร์เด่นของ Samsung Galaxy Note 4 สุดยอดสมาร์ทโฟนที่กลับมาทวงคืนตำแหน่งอีกครั้ง
หลังจากที่เราได้ดูดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note 4 รวมถึงสเป็คของเครื่องกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทำเอาหลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอดูนั้น ไม่ผิดหวังเลย เพราะไม่ว่าจะดีไซน์ และฟีเจอร์เด่นๆนั้น ต้องบอกเลยว่า รอมานานแล้วที่ต้องการแบบนี้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 4 ที่น่าสนใจคงจะมีหลักๆ 4 ส่วน มีดังนี้
- DESIGN ของ Samsung Galaxy Note 4 นั้นมีการออกแบบใหม่ โดยขอบข้างได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุโลหะคุณภาพสูง ส่วนฝาหลังยังคงเป็นวัสดุหนังสังเคราะห์เหมือนเดิม หรือพลาสติกนั้นเอง ส่วนขอบจอมีความโค้งมนที่ 2.5D ซัมซุงบอกว่าขอบจอแบบนี้จะทำให้เครื่องมีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก หรือตกแตกมากขึ้น โดย Note4 จะมีน้ำหนักและความหนามากขึ้นกว่า Note3 นิดนึง โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 176กรัม และบาง 8.5กรัม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอล็อคสกรีนแบบใหม่ด้วย
- LARGE SCREEN & MULTITASKING หน้าจอของ Samsung Galaxy Note 4 จะมีขนาด 5.7นิ้ว SuperAMOLED ความละเอียด 1440×2560 พิกเซล ส่วนการทำงานมัลติทาสกิ้งนั้น มีการปรับปรุงใหม่โดยสามารถทำงานพร้อมกันได้หลายอย่าง โดยที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถเปิดแอพซ้อนกันเป็นในแบบหน้าต่างเล็กๆ ซ้อนอยู่บนอีกแอพได้เช่นกัน
- S-PEN & S NOTE ได้รับการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการรองรับน้ำหนักกดลง (pressure sensitivity) ได้สูงถึง 2048 ทำให้ความรู้สึกในการใช้ปากกา S-Pen จดโน้ตได้ลื่นเหมือนจดลงบนกระดาษจริงๆ นอกจากนี้ S-Pen ยังทำหน้าที่เป็นเหมือน เม้าส์ ไว้ใช้ลากข้อความลากรูปภาพได้เลย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานที่มากขึ้น ในส่วนของ S NOTE ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ที่หลายๆคนต้องชอบเข้ามานั้นก็คือ Snap Note คือการถ่ายภาพข้อความที่มีตัวอักษร เมื่อบันทึกแล้ว ตัวโปรแกรมจะทำการแปลง มาเป็นตัวอักษรให้เราเลย โดยที่ไม่ต้องมาพิมพ์ทีหลัง
- CAMERA ในครั้งนี้ Samsung ได้กลับมาเน้นที่การถ่ายภาพตนเองมากขึ้น โดยที่กล้องหน้านั้นได้เพิ่มความละเอียดเข้าไปที่ 3.7 ล้านพิกเซล รูรับแสง 1.9 ทำให้ถ่ายภาพได้สว่างมากขึ้น รวมถึง มุมมองกล้องที่กว้างถึง 90องศา และที่สำคัญสามารถถ่ายภาพตนเองได้ง่ายโดยการใช้นิ้วไปแตะตรงเซ็นเซอร์ Heart Rate ก็สามารถถ่ายภาพได้ทันที และที่เจ๋งสุดๆนั้นก็คือโหมดกล้อง Wide Selfie หรือถ่ายภาพพาโนราม่าด้วยกล้องหน้านั้นเอง ทำให้เราเก็บภาพได้มุมมองที่กว้างถึง 120 องศา ส่วนกล้องหลังนั้น ได้ใส่เทคโนโลยีกันสั่น OIS เข้ามาทำให้ภาพที่ได้นั้นมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Note 4 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Power Management การกินไฟที่น้อยลง และใช้งานได้นานกว่า Note 3 ถึง 7.5% และยังชาร์ตแบตเตอรี่ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยการชาร์ตเพียงครึ่งชั่วโมง แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาถึง 50%
และอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นของ Samsung GalaxyNote 4 ก็คือ การเพิ่มไมค์โครโฟนตัวที่ 3 จะช่วยให้การบันทึกเสียงได้คมชชัดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกไปด้วย
และนี้ก็คือ ฟีเจอร์เด่นทั้งหมดของ Samsung Galaxy Note 4 ซึ่งทั้งหมดแน่นอนว่า Samsung Galaxy Note Edge ก็มีฟังชั่นเหมือนกันทั้งหมดด้วย แต่ Note Edge จะมาพร้อมกับจอโค้ง และใช้ยูไอแบบใหม่ที่ชื่อว่า REVOLVING UX การทำงานนั้นจะทำงานแยกเป็นสองจอโดยตรงจอที่โค้งนั้นจะทำหน้าที่เป็นเหมือนแถบแจ้งเตือนนั้นเอง นอกจากนี้ยังสามารถเป็นปุ่มชัดเตอร์กล้องได้ด้วยเช่นกัน
