กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 4 ถือเป็นกระจกในมือถือที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุดในตอนนี้ ซึ่งมีการนำไปใช้กับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์อย่าง Samsungh Galaxy Note 5, Galaxy S7, Galaxy S7 edge และล่าสุดในมือถือตระกูล Samsung Galaxy A (2016) ก็ได้เปลี่ยนมาใช้กระจกกันรอยนี้เช่นกัน
Gorilla Glass 4 มีโอกาสรอดจากการตกถึง 80%
คุณสมบัติเด่นที่ทาง Corning นำเสนอในกระจกรุ่นที่ 4 นี้คือ สามารถป้องกันการเสียหายจากการตกกระแทกได้มากกว่าเดิม จากผลการทดสอบในห้องทดลอง มีความคงทนต่อการตกกระแทกมากกว่ากระจกของผู้ผลิตรายอื่นๆ ถึง 2 เท่า โดยที่การทดสอบนั้นทำ droptest ให้เครื่องหล่นกระแทกโดยเอาด้านกระจกลงกระแทกกับพื้นจากระยะความสูง 1 เมตร ลงบนพื้นผิวที่มีความแข็งและขรุขระอย่างพื้นคอนกรีต เพื่อให้ใกล้เคียงกับสถานการณ์การใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ซึ่งผลการทดสอบมันมีโอกาสที่จะไม่แตกเสียหายได้ถึง 80% ถือว่าเป็นกระจกที่มีความคงทนมากที่สุดในท้องตลาดขณะนี้
https://youtu.be/8ObyPq-OmO0
แต่อย่างไร อัตราการตกกระแทกแล้วตัวกระจกไม่แตกเสียหายก็จะผันแปรตามความแรง, องศาที่ตกกระทบกับพื้น และลักษณะของพื้นผิวที่ตกกระทบด้วย
ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์หลักของกระจก Gorilla Glass คือการทนต่อแรงขีดข่วนต่างๆ ทางด้านคุณสมบัติแล้ว กระจก Gorilla Glass รุ่นที่ 4 นี้มีระดับความแข็ง (Mohs hardness scale) อยู่ในระดับที่ 7/10 ลำดับ เทียบเท่ากับ ควอตซ์ (วัตถุที่แข็งที่สุดคือเพชร รองลงมาคือ คอรันดัม, โทพาซ และ ควอตซ์) จึงทำให้ช่วยให้ตัวกระจกเกิดรอยขีดข่วนได้ยากขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนในการใช้งานในระหว่างอย่างเช่น กันรอยขีดข่วนจากเหรียญหรือกุญแจที่อยู่ในกระเป๋า
ทนทานมากขึ้นแต่ว่าบางลงกว่าเดิม
ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ก็ยังพัฒนาเรื่องของความบางลงอีกด้วย จากตอน Gorilla Glass 3 ที่ตัวกระจกหนา 0.7 มิลลิเมตร มาในรุ่นใหม่ได้พัฒนาจนทำให้บางลงเหลือเพียงแค่ 0.4 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสามารถออกแบบเครื่องให้บางลงได้ยิ่งกว่าเดิม โดยที่ตัวเครื่องมีความคงทนมากขึ้น
นอกจากจะใช้งานกระจกกันรอยสุดแข็งแกร่งแล้ว Samsung Galaxy A (2016) ที่มีดีไซน์สุดสวยงาม ยังมีการใช้ Aluminium Alloy 6061 ที่ใช้ในการประกอบเครื่องบินมาเป็นโครงสร้างหลังของตัวเครื่อง จึงส่งผลให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งและทนต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น