เมื่อปลายปีก่อนสมาร์ทโฟน Android ของ Samsung มีตัวเลือกไม่มากนัก โดยเฉพาะรุ่นราคาราวๆ 12,000-15,000 บาท ถึงแม้จะเล่น Galaxy S Plus, Galaxy SL ได้แต่ 2 รุ่นนี้ไม่ค่อยมีอนาคตแล้ว (สำหรับการอัพเกรด ICS 4.0) ล่าสุด Samsung ได้เปิดตัว “Galaxy S Advance” หรือ GT-i9070 แอนดรอยด์ระดับ Mid-Range รวมจุดเด่นของ Galaxy S + Galaxy Nexus เข้าด้วยกัน ทั้งด้านดีไซน์ตัวเครื่อง ฟีเจอร์ภายใน พร้อมหน่วยประมวลผลที่อัพเกรดซีพียูเป็น Dual-Core เรียบร้อย เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพเร็วเทียบชั้นไฮเอนด์ แต่ไม่มีงบ – ความจำเป็นถึงกับต้องสอย Galaxy S II หรือ Galaxy Nexus มาใช้งานครับ สำหรับ “Galaxy S Advance” มีจุดเด่นอะไรบ้าง ? ติดตามต่อได้เลย : )
Galaxy Nexus Mini
รุ่นนี้ไม่ได้จอใหญ่ไร้ปุ่ม หรือรัน Android 4.0 ตั้งแต่เปิดใช้ครั้งแรก แต่ดีไซน์ของ “Galaxy S Advance” ปฏิเสธไม่ได้ว่าคล้าย Galaxy Nexus มาก ! เน้นสไตล์โค้งเว้าทั้งตัวเครื่อง – หน้าจอ ช่วยให้การจับถือทำได้เหมาะมือมากขึ้น ลงตัวกับสรีระใบหน้าเมื่อทำการโทรศัพท์ เชื่อว่าหลายๆ คนคงชอบการออกแบบที่แตกต่างจาก Galaxy S แบบเดิมๆ แน่นอนครับ
Curved AMOLED Display
หน้าจอของ Galaxy S Advance ใช้ชนิด Super-AMOLED ขนาด 4.0 นิ้ว (ความละเอียด 800×480 พิคเซล) เช่นเดียวกับ Galaxy S, S Plus, Wave 3 แต่ .. ที่รุ่นนี้มีไม่เหมือน 3 รุ่นดังกล่าวคือ “Curved Glass Design” หรือพาเนลกระจกโค้งเหมือน Nexus S ช่วยให้การสัมผัสทำได้เต็มนิ้วมากขึ้น และรุ่นนี้ใช้กระจก Gorilla Glass ด้วย ป้องกันรอยได้ดีในระดับนึงเลยล่ะ
NovaThor Processor
รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของ Samsung ที่ใช้ชิปประมวลผล “U8500 NovaThor” ของ ST-Ericsson (Cortex-A9 1GHz , Mali-400 GPU) เร็วแรงเทียบเท่า Samsung Exynos 4210 แถมรองรับแอพฯ + เกมได้ค่อนข้างเยอะ ทำคะแนน Quadrant ได้ค่อนข้างสูงทีเดียว (3,000+) ดังนั้นประสิทธิภาพจึงไม่ต้องกังวลว่าจะด้อยกว่า Galaxy S II จ้า
All-in-one Connectivity
ด้านการเชื่อมต่อ Galaxy S II รองรับอะไร เจ้า “Galaxy S Advance” ก็ทำได้เหมือนกันเป๊ะ ทั้ง 3G Quadband 14.4 Mbps**, WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 3.0, HDMI Streaming (ผ่าน MHL Adapter), S-GPS แต่ไม่มี NFC นะครับ อิอิ
คุณสมบัติอื่นๆ
– ขนาด 123.2 x 63 x 9.7 มิลลิเมตร , น้ำหนัก 120 กรัม
– ระบบ Android 2.3.6 , TouchWiz 4.0 UI (รองรับการอัพเกรดเป็น ICS 4.0.3)
– เมมโมรี่ภายใน 8GB (ROM 2GB + Internal 2GB + User 4GB) , เพิ่มเมมโมรี่ภายนอก 32GB
– ซีพียู ST-Ericsson U8500 NovaThor 1GHz , แรม 768MB (เหลือใช้งานจริง 558MB)
– กล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล พร้อม AF-TF, แฟลช LED บันทึกวิดิโอความละเอียด 1280×720 พิคเซล (30 fps)
– Social Hub, Reader Hub, Games Hub และ K-POP Hub (ใหม่ล่าสุด)
– ลงแอพฯ ผ่าน Android Market
– ใช้งาน GPS , A-GPS ผ่าน Google Maps
– แบตเตอรี่ Li-ion 1,500 mAh
วิดิโอรีวิว
http://youtu.be/gtpE1bU0p6g
สรุป
หากได้ติดตามข่าวสารไอที (และงาน MWC2012) จะเห็นว่าเทรนด์สมาร์ทโฟนปี 2012 รุ่นไฮเอนด์อัพเกรดสู่ระดับ Quad-Core ประมวลผลบนซีพียู 4 แกนแล้วเรียบร้อย ทั้งนี้การใช้งานทั่วไปอาจไม่จำเป็นต้องใช้ซีพียูแรงขนาดนั้น เพียงแค่ Dual-Core ก็เหลือเฟือครับ แถมยังประหยัดตังอีกต่างหาก
Samsung Galaxy S Advance จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล Galaxy Series ที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยลักษณะการดีไซน์แปลกตา โค้งเว้าสไตล์ Galaxy Nexus ขนาดบอดี้พอดีมือ หน้าจอ S-AMOLED 4.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด, ซีพียูระดับ Dual-Core ประมวลผลเร็วแรง ตอบสนองการใช้งานแบบไม่สะดุด, กล้อง 5MP มาตรฐาน พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ 3G Quadband + WiFi + GPS และสามารถอัพเกรดซอฟท์แวร์เป็น ICS 4.x ได้อีกด้วย แบตเตอรี่ 1,500 mAh ใช้งานได้นานพอใช้ครับ อึดกว่า Galaxy S II
จุดด้อยเท่าที่เห็นชัดคือ วัสดุบอดี้ด้านข้างเป็นโครเมี่ยมเกือบทั้งหมด แนะนำอย่างยิ่งว่าหาเคสมาใส่ดีกว่า หากทำตกแล้วบุบเละครับ (แบบ Xperia Arc, Arc S) ส่วนเรื่องหน้าจอ S-AMOLED ที่จัดพิเซลแบบ Pentile Display คิดว่าคงไม่ส่งผลมากนัก แค่การแสดงผลจริงจะไม่เนียนเท่านั้นเอง : )
สนใจเป็นเจ้าของ “Galaxy S II Advance” หรือ Samsung GT-i9070 จัดได้ในราคาเพียง 12,900 บาท ตอนนี้มีเพียงสีดำให้เลือกครับ ยังไงก็ลองตัดสินใจดูได้เลย
Strength
– ดีไซน์โค้งแบบ Galaxy Nexus
– หน้าจอ Super AMOLED 4.0 นิ้ว , กระจก Gorilla Glass (Curved-Glass)
– รองรับ 3G Quadband (เครื่องขายจริง Optimized 900/2100 MHz รับสัญญาณดีขึ้น)
– ซีพียู Dual-Core 1GHz , แรม 768MB
– ระบบปฏิบัติการ Android 2.3.6 (อัพเดทเป็น ICS 4.0 ได้)
– เมมโมรี่ภายใน 8GB , เพิ่มเมมโมรี่ภายนอกสูงสุด 32GB
– กล้อง 5MP+AF บันทึกวิดิโอ HD720p , กล้องหน้า 1.3MP
– เชื่อมต่อ Bluetooth 3.0, WiFi (802.11 b/g/n), GPS + A-GPS
– แบตเตอรี่ 1,500 mAh เพียงพอใช้งานใน 1 วัน
– ราคาเปิดตัวไม่แพง เมื่อเทียบกับคุณสมบัติในตัว
Weakness
– วัสดุโครเมี่ยมรอบเครื่อง (มีโอกาสลอกเมื่อใช้งานไปนานๆ)
– หน้าจอ Pentile Display พิคเซลเรียงตัวแบบตาข่าย
– ฟอนต์เดิมๆ ของ Samsung ค่อนข้างเล็กไปหน่อย
– ไม่รองรับ 3G HSPA+ 21 Mbps
– อุปกรณ์เสริมหาซื้อไม่ง่ายนัก
ส่วนตัวเชื่อว่า “Galaxy S Advance” มีสิทธิ์ดังระเบิดครับ จากสเปคภายในสมราคา ดีไซน์สวย เหมาะกับผู้ใช้งานที่กำลังตามหาสมาร์ทโฟน Android ช่วงราคา 13000 บาท วันนี้มีรุ่นดี ราคาเด็ดมาให้คุณเลือกอีกแล้วล่ะ 😀