ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนจาก Samsung ที่หน้าจอใหญ่ที่สุดตอนนี้เลยค่ะ กับ Galaxy Mega 6.3 ที่มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว รุ่นนี้น่าสนใจมากค่ะ เริ่มบุกตลาดสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เริ่มจาก Galaxy Note ที่ฮิตถล่มทลาย ตามมาด้วย Galaxy Grand ที่มีกระแสตอบรับดีไม่แพ้กัน ล่าสุดจึงได้ผุดสมาร์ทโฟนตระกูล Mega ออกมาเจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่บึ้มและราคาไม่แพง แต่ขนฟีเจอร์เจ๋งๆ มาให้ใช้งานแบบครบครัน คุ้มค่ามากๆ เน้นการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก โดยเปิดตัวมาเมื่อประมาณเดือน กรกฏาคมและขายที่ราคา 14,900 บาทเท่านั้น
หน้าจอของ Samsung Galaxy Mega 6.3 เป็นจอชนิด SuperClear LCD 16 ล้านสี ความละเอียด 720×1280 พิกเซล
ด้านบนหน้าจอ มีลำโพงสนทนา ถัดไปก็เป็นเซ็นเซอร์วัดแสงและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ขวาสุดคือกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลค่ะ
ด้านล่างหน้าจอก็เป็นปุ่ม softkey เมนและปุ่มย้อนกลับ ตรงกลางก็เป็นปุ่ม Home เหมือนเดิม
ด้านซ้าย มีแค่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงเท่านั้น และยังใช้สำหรับการ ซูมเข้า-ออกในเมนูกล้องได้ด้วย
ส่วนด้านขวา มีแค่ปุ่ม Power เพียงปุ่มเดียว สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง ได้ดีไซน์ให้ขยับลงมาอยู่เกือบๆตรงกลางของเครื่องเลย น่าจะทำเพื่อให้ถนัดในการกดปุ่มมากขึ้น เพราะเวลาจับเครื่องจะอยู่ในตำแหน่งของนิ้วที่กดล็อคหน้าจอได้ง่ายขึ้นค่ะ
ส่วนหัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และพอร์ตอินฟราเรดสำหรับเป็นรีโมทบนแอพ WatchOn
ด้านล่าง มีไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และพอร์ต USB ค่ะ สำหรับเสียบสายชาร์จ สำหรับต่อเข้ากับคอมฯ หรือใช้ USB On-The-Go ก็ได้ในรุ่นนี้
พลิกไปดูด้านหลัง ก็จะเป็นกล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบแบตเตอรี่ก้อนใหญ่พอๆ กับเครื่องขนาด 3200 mAh ใช้งานกันยาวๆ และสำหรับ Samsung Galaxy Mega 6.3 จะใช้ MicroSim รองรับ 3G ครบทุกค่ายในบ้านเราค่ะ ส่วน 4G ไม่รองรับ ต้องเป็นรุ่น GT-I9205 ถึงจะใช้ได้จ้า
มาดูที่ประสิทธิภาพของ CPU Galaxy Mega 6.3 บ้าง รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 400 ความเร็ว Dual-core 1.7 GHz Krait และกราฟฟิค Adreno 305 รันบนระบบปฎิบัติการ Android OS, v4.2.2 (Jelly Bean) RAM 1.5GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) 16GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 64GB ค่ะ
ส่วนฟังก์ชั่นต่างๆแม้ว่าจะไม่ได้จัดเต็มเหมือนรุ่นท็อป แต่ก็ยังมีความสามารถหลักๆ อย่าง Smart Stay, Direct Call, Smart Alert, Pop Up Play รวมไปถึงโปรแกรม Group Play, S Memo, S Planner, S Voice, S Translator และ Story Album ให้ใช้งานกันอีกเพียบค่ะ
Samsung Galaxy Mega 6.3 มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช รองกับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายรูปตัวเอง และใช้งานวิดีโอคอลล์ได้
สำหรับ UI ของกล้องจากมือถือ Samsung ในรุ่นหลังๆ จะมีหน้าตาเหมือนกับ UI ของ Galaxy Camera จะแตกต่างกันก็เพียงแค่ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีมาให้ลดหลั่นกันไปตามระดับราคา โดย Samsung Galaxy Mega 6.3 นั้นก็มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานกันมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นโหมด Auto, Panorama, Beauty Face, Best Photo, Best Face, Continuous shot, Sports, Night, Rich Tone (HDR) และขาดไม่ได้กับการถ่ายภาพนิ่งพร้อมเสียงอย่าง Sound & Shot และยังคงสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Buddy Photo Share ซึ่งใช้ระบบจดจำใบหน้า ให้เราสามารถแชร์ภาพถ่ายให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นเจ้าของใบหน้าในภาพถ่าย ซึ่งเราเคย Tag ข้อมูลเอาไว้ได้ทันที
Samsung Galaxy Mega 6.3 รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G ได้ทุกเครือข่าย และขาดไม่ได้กับชิป NFC ที่รองรับการใช้งานฟังก์ชั่น S Beam เพื่อแชร์ไฟล์มีเดียต่างๆ ด้วยความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi Direct อีกทั้งยังมีพอร์ทอินฟราเรด (IR Blaster) ให้ใช้งานเป็น Universal Remote หรือรีโมทควบคุมทีวี หรืออุปกรณ์ต่างๆ พร้อมใช้งานร่วมกับโปรแกรม WatchON
Samsung Galaxy Mega 6.3 ถือเป็น Phablet (Phone + Tablet) หรือสมาร์ทโฟนจอยักษ์ ที่ถูกปล่อยออกมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบหน้าจอขนาดใหญ่ ด้วยขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ HD 720p ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง อ่านอีบุ๊ค ได้เป็นอย่างดี ซึ่งใครที่มองว่าการพกพาแท็บเล็ตไปไหนต่อไหน มันดูเทอะทะจนเกินไป เชื่อว่า Samsung Galaxy Mega 6.3 จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ