รีวิว Samsung Galaxy C9 Pro : มือถือจอใหญ่ 6 นิ้ว แรม 6 GB มาพร้อมแบตฯ 4,000 มิลลิแอมป์
สวัสดีเพื่อนๆชาวซัมซุงปาร์ตี้ทุกคนค่ะ วันนี้ก็กลับมาพบกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่หลายๆคนกำลังให้ความสนใจกันอย่างมากมายเลยทีเดียวนั่นก็คือ Samsung Galaxy C9 Pro นั่นเองค่ะ อย่างที่แอดได้จั่วหัวข้อไว้ข้างต้นว่ามาพร้อมสเปคที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นขนาดจอ 6 นิ้ว แรม 6GB และแบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะถึง 4,000 มิลลิแอมป์ ต้องขอบอกเลยว่ายังเป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้น วันนี้แอดเลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้กันแบบเจาะลึกรายละเอียดเอาให้รู้ชัดไปเลยว่าดียังไง ไปค่ะ ไปชมกันเลย
Samsung Galaxy C9 Pro
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อรุ่นนี้กันอยู่บ้าง เพราะรุ่นนี้เพิ่งจะเปิดตัวในประเทศจีนกันไปแล้วเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Samsung ประเทศไทยก็ได้นำรุ่นนี้เข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่ Samsung Brand Shop เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปล่อยรุ่น Galaxy C5 และ Galaxy C7 ออกมาทดสอบตลาดในจีนกันไปก่อนหน้าก็ได้รับผลตอบรับจากตลาดดีเลยทีเดียว ทำให้ซัมซุงตัดสินใจออกรุ่นถัดไปอย่าง C9 Pro มาติดๆ และด้วยจุดเด่นหน้าจอใหญ่ 6.0 นิ้ว ดีไซน์พรีเมี่ยม และแรมที่ให้มาเยอะมากถึง 6GB พร้อมกับแบตเตอรี่ถึง 4,000 มิลลิแอมป์ของรุ่นนี้นั้นทำให้ผู้คนหันมาสนใจกันเยอะตามที่คาดจริงๆ แต่ … ในความรู้สึกส่วนตัวของแอด คิดว่ารุ่นนี้ค่อนข้างมีความคล้ายกับสมาร์ทโฟนรุ่นพี่อย่างเจ้า Galaxy A9 Pro ในหลายๆด้าน แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
อาทิเช่น การออกแบบดีไซน์แบบใหม่ที่ดีไซน์ให้เครื่องมีความบางลงแต่ยังคงความรู้สึกที่ทนทานและจับถนัดมืออยู่ถึงแม้จะมีขนาดจอใหญ่ก็ตาม ตัวเครื่องที่ใช้วัสดุเป็นโลหะอะลูมิเนียม งานประกอบโค้งมนดูพรีเมี่ยม และบริเวณเส้นเสาอากาศด้านหลังเครื่องได้รับการออกแบบใหม่จากที่ปกติทั่วไปจะเป็นแถบเส้นใหญ่ๆ พาดตัวเครื่อง เปลี่ยนเป็นเส้นเล็กๆ เรียงกัน 3 เส้น ทำให้ดูเนียนเรียบไปกับตัวเครื่อง ดูสวยงามไม่เกะกะสายตาแต่อย่างใด
มาดูส่วนที่เห็นได้ชัดๆ เลยก็จะเป็นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080 x 1920 พิกเซล) หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Super AMOLED ที่มีความคมชัดของภาพที่อยู่ในระดับดีทีเดียว แม้ความละเอียดหน้าจอจะยังไม่สูงไปกว่า Full HD แต่การใช้งานหน้าจอเจ้า C9 Pro ตัวนี้ก็ยังลื่นไหลไม่มีสะดุดให้ความคมชัดดี สีสันสดใสสวยงาม คอเอนเตอร์เทนทั้งหลายน่าจะชอบกัน เพราะได้พื้นที่หน้าจอในการใช้งานแบบเต็มตา
ถัดมาในส่วนของกล้องกันบ้างรุ่นนี้กล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 สามารถถ่ายภาพได้คมชัด สีสันสดใส เซลฟี่ชัดแบบที่ว่ามองเห็นยันรูขุมขนกันไปเลยทีเดียว อ่ะๆ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าชัดขนาดนั้นหน้าเน่อจะไม่เนียนค่ะ เพราะซัมซุงเค้าไม่ลืมที่จะใส่โหมดบิวตี้ที่ปรับได้มาถึง 8 ระดับให้แน่นอนค่ะ ในรูปแอดนี่แบบปรับบิวตี้ระดับสุดฮ่ะ
ต้องขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่ากล้องถ่ายภาพของ C9 Pro เค้าก็จัดว่าดีสมราคาไม่แพ้เรื่องอื่นเลยจริงๆค่ะ ด้วยความละเอียดกล้องที่ใส่มาให้สูง 16 ล้านพิกเซลและรูรับแสง F/1.9 ที่ใส่มาทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า แถมมีแฟลช dual-LED สำหรับกล้องหลังเพื่อช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันสมจริงแม้จะใช้แฟลช ส่วนโหมดถ่ายภาพก็ยังมีมาให้ใช้ครบครัน ทั้งโหมดถ่ายภาพแบบโปร ถ่ายภาพ HDR ที่ช่วยเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างครบถ้วน ถ่ายภาพอาหารด้วยโหมด Food ที่ช่วยให้ภาพสว่างสดใสและอาหารน่าทาน
หรือจะเพิ่มฟิลเตอร์สีรูปแบบต่างๆ ก็สามารถทำได้ส่วนคุณภาพภาพถ่ายจาก ซัมซุงกาแลคซี่ C9 Pro ทำได้น่าประทับใจ สีสันของภาพมีความสมจริง ภาพคมชัดใช้ได้เลย แต่ถ้าแตะจอเพื่อโฟกัสและวัดแสง ภาพอาจจะมืดลงบ้างในบางสภาพแสง แต่ภาพจากการใช้งานระบบออโต้โฟกัสก็มีความคมชัดที่ดีและค่อนข้างแม่นยำส่วนการถ่ายวิดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p ซึ่งเพียงพอกับการถ่ายวิดีโอทั่วๆ ไป หรือจะแชร์ลงโซเชียลก็ยังสบายๆ
รูปตัวอย่างที่ถ่ายด้วยกล้องหลัง C9 Pro
มาดูกันต่อในส่วนของปุ่มสำคัญ นั่นก็คือปุ่มโฮม กันบ้าง ในส่วนนี้ซัมซุงก็ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้เช่นเดิม และก็ไม่พลาดที่จะใส่ฟีเจอร์สำคัญๆ ที่มีในสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ๆ อย่างเช่น ฟีเจอร์การสแกนลายนิ้วมือที่มีเซ็นเซอร์อยู่ตรงบริเวณปุ่ม Home มาให้ด้วย
และนอกจากนี้ก็ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Secure Folder ที่ช่วยปกป้องข้อมูล, ล็อคแอปพลิเคชั่นที่อยากจะใช้งานเป็นส่วนตัว หรือจะเป็นการเข้าใช้แอปพลิเคชั่น 2 แอคเคาท์ทั้ง Facebook, Line ในเครื่องเดียวกันก็สามารถทำได้อีกด้วย
ถัดมาในส่วนของด้านขวาของตัวเครื่องก็จะเป็นปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และช่องสำหรับใส่ซิม ซึ่งรุ่นนี้เค้าก็มีช่องใส่ซิมการ์ดและ microSD เป็นแบบแยกช่องมาให้แบบชัดเจนไปเลยจ้าาาา ไม่ต้องปวดหัวกับสลอตซิมการ์ดแบบไฮบริดอีกต่อไป ได้ทั้งพื้นที่ความจำเพิ่มเติมและใช้งาน 2 ซิมได้แบบไม่ต้องกังวล
ส่วนความจำในตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ถึง 64 GB สามารถเพิ่ม Micro SD การ์ด ได้สูงสุด 265 GB เพื่อบันทึกภาพและเพลงได้อย่างจุใจ และยังรองรับการใช้งาน 4G 2 ซิม (โดยซิม 2 จะรองรับ 3G เมื่อมีการใช้งาน 2 ซิมพร้อมกัน)
ถัดมาในส่วนของฝั่งซ้ายตัวเครื่องฝั่งนี้ก็จะเป็นปุ่ม Volume สำหรับเพิ่มลดเสียงแบบแยกสองปุ่มและสามารถใช้เป็นตัวกดชัดเตอร์ขณะถ่ายภาพได้ด้วยค่ะ
ถัดมาในส่วนของด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อมาให้ 2 พอร์ตด้วยกัน คือช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.1 พอร์ต และพอร์ต USB Type-C เช่นเดียวกับรุ่นใหม่ตัวอื่นๆ แล้วอีก 1 พอร์ต อ่อที่สำคัญ รุ่นนี้เค้ารองรับรองรับฟาสต์ชาร์จด้วยนะจ้ะ ถัดมาอีกนิดจะเป็น ไมค์รับเสียง 1 ตัวซึ่งที่ด้านบนของตัวเครื่องก็จะมีไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้างอีก 1 ตัวด้วยเช่นกัน ถัดมาอีกนิดก็จะเป็นลำโพงสเตอริโอโหมด 2 ลำโพง ที่ช่วยให้เพื่อนๆ ดื่มด่ำไปกับเสียงที่คมชัดสมจริง ไม่ว่าจะเล่นเกมส์ หรือดูหนัง ฟังเพลง ด้วยลำโพงคู่แบบสเตอริโอ พร้อมเทคโนโลยี Ultra High Quality Audio (UHQA) แปลงเสียงให้มีคุณภาพสูง ใกล้เคียงกับต้นฉบับจริง ก็ฟังได้หม๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาดูกันต่อที่สเปคภายในกันบ้าง นอกจากเรื่องแรมที่ให้มาถึง 6 GB แล้ว ตัวนี้ก็ยังขับเคลื่อนด้วยชิพประมวลผล Qualcomm MSM8976 Snapdragon 653 Octa-core 1.95 GHz ร่วมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 6.0.1 เรื่องความลื่นไหลในการใช้งานก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมากทั้งการใช้งานทั่วไปและระดับสูง หรือแม้แต่การรันภาพกราฟิกก็ยังให้ความลื่นไหลที่ค่อนข้างประทับใจ
อ่อ … ลืมบอกไปอีกอย่างค่ะว่า ในรุ่นนี้เค้าก็แอบใส่โหมด Alway On Display มาให้เพื่อนๆได้ใช้งานกันด้วยนะคะ ถึงแม้จะปรับแต่งหน้าตาไม่ได้มากเหมือนในรุ่นใหญ่ๆ แต่ก็ใช้งานได้ดีเช่นกันค่ะ รับรองว่าไม่กินแบตฯ เพราะเค้ามีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วย ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนานกว่า แถมมีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,000 มิลลิแอมป์ รับรองเล่นมือถือกันให้ตาแฉะไปข้างได้เลยจ้าาาา
ผลทดสอบบน Antutu
สเปค
- ขนาด, น้ำหนัก – 162.9 x 80.7 x 6.9 มิลลิเมตร, 189 กรัม
- SIM Card – Nano SIM+Nano SIM
- แบตเตอรี่ – 4,000 mAh
เครือข่าย
- 2G 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
- 4G 900 / 1800 / 2100 / 2600 MHz
หน่วยความจำ
- หน่วยความจำภายใน 64 GB / RAM 6 GB
- หน่วยความจำภายนอก microSD สูงสุด 256 GB
จอแสดงผล
- ขนาด 6.0 นิ้วความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล แบบ Super AMOLED 16 ล้านสี
ระบบ
- หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) Qualcomm MSM8976 Pro Snapdragon 653 Octa-core (4×1.95 GHz + 4×1.4GHz)
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 510
- ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ Android 6.0.1 (มาร์ชแมลโลว์)
การเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band (Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct)
- รองรับBluetooth (v4.2, A2DP, LE)
- รองรับ NFC
- USB USB Type-C
- รองรับระบบระบุตำแหน่ง GPS (A-GPS, GLONASS, BDS)
มัลติมีเดีย
- กล้องถ่ายภาพนิ่ง
- ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล / 16 ล้านพิกเซล
- คุณสมบัติ รูรับแสง F1.9 / ถ่ายภาพแบบโปร / ฟิลเตอร์สี / ถ่ายภาพอาหาร / โหมด Beauty
- กล้องวิดีโอ
- ความละเอียด 1920 x 1080 (Full HD) / 1920 x 1080 (Full HD)
อื่นๆ
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับ Fast Charge
- รองรับ Secure Folder และการใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นในเครื่องเดียว
- รองรับโหมด Alway On Display
- มีโหมด Blue light shild
- มีไฟฉาย
ราคา 16900 บาท
สุดท้ายนี้ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากจับจองเป็นเจ้าของเจ้ามือถือจอใหญ่สเปคลื่นไหลตัวนี้ละก็ สามารถไปซื้อไปหากันได้ที่ Samsung Brand Shop ทุกสาขาเลยค่ะ สำหรับวันนี้ก็หมดหน้าที่ของแอดละ ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ^^