Android Marshmallow 6.0.1ใน Samsung Galaxy Note 5 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ไปดูกัน!

หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ใช้งาน Galaxy Note 5 รอคอยด้วยความหวังที่แสนลิปหรี่กันมายาวนานจนบางคนก็แอบถอดใจกับการรอคอยการอัพเดท Android 6.0.1 Marshmallow กันไป แต่แล้วในที่สุดวันนี้ทางซัมซุงก็ทำเซอร์ไพร์ปล่อยอัพเดทออกมาให้พวกเราชาว Galaxy Note 5 อัพเดทกันจริงๆซะที ซึ่งก็เริ่มมีการอัพเดทกันไปบ้างแล้วส่วนใหญ่ ซึ่งเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่ได้อัพเดทก็สามารถเข้าไปตรวจสอบการอัพเดทได้โดยทำตามขั้นตอนนี้เลยค่ะ

Galaxy Note 5 Update

  1. เข้าไปที่ Settings
  2. เข้าไปที่ About Phone
  3. เลือก Software Update ได้เลยค่ะ

ส่วนใครที่กดอัพเดทกันไปแล้วแอดมินก็อยากจะมาแนะนำฟีเจอร์หลักๆให้เพื่อนๆได้รู้จักกันค่ะ ซึ่งหลังจากอัพเดทกันไปแล้วสิ่งที่เพื่อนๆ จะเห็นได้ชัดสุดถึงความเปลี่ยนแปลงก็น่าจะเป็นในส่วนของ UI/UX ที่มีการปรับหน้าตาให้ใกล้เคียงกับใน Samsung Galaxy S7,S7 edge ค่ะ ซึ่งก็คล้ายๆกับที่ Galaxy S6 กับ S6 edge ได้รับการอัพเดทกันไปก่อนหน้านั่นเอง และโทนสีใหม่สำหรับการแถบการแจ้งเตือนและ quick setting ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวสว่างๆ ใน่ส่วนของการตอบสนองการใช้งาน ก็รวดเร็วลื่นปรี๊ดกันเลยทีเดียว แต่ถ่าใครอัพเดทมาแล้วรู้สึดหน่วงๆ แอดมินแนะนำใหทำการ Factory Reset เครื่องดูค่ะ

1. Finger Print

ฟีเจอร์การสแกนลายนิ้วมือได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นมากในส่วนของการแสกนที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น  และเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในกาแล็กซี่ Note 5 ของเพื่อนๆ ลายนิ้วมือของเพื่อนๆสามารถใช้เพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ และฟัก์ชั่นการใช้งานอื่นๆซึ่งวิธีการในการเพิ่มลายนิ้วมือนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ ไปดูวิธีกันเลย

  1. เลือกไปที่ Setting
  2. แตะที่ “ล็อกหน้าจอและความปลอดภัย”
  3. แตะที่ “ลายนิ้วมือ”
  4. แตะ “เพิ่มลายนิ้วมือ”
  5. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอจนครบขั้นตอนหลังจากเพิ่มลายนิ้วมือของเพื่อนๆค่ะ แนะนำว่าให้เปิดตัวเลือกต่อไปนี้เพิ่มไปด้วยค่ะ Web sign-in , Verify Samsung Account  , Use with Samsung Pay , Fingerprint Unlock ค่ะ

2.Google now on tab

Google เพิ่มความสามารถให้ผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Google Now ไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Now on Tap กดปุ่มโฮมค้างเพื่อเรียก Google Now ขนาดมินิ ลอยทับขึ้นมาบนหน้าจอโดยไม่ต้องออกจากแอพ ซึ่งเจ้า Google Now on Tap ฉลาดพอที่จะอ่านข้อมูลบนหน้าจอของเรา แล้วประเมินว่าเราต้องการให้ช่วยเหลืออะไร อาทิเช่น ถ้าเรากำลังอ่านอีเมลจากเพื่อนที่ชวนไปดูภาพยนตร์ Zootopia การกดโฮมค้างเรียก Now on Tap จะมีหน้าจอแสดงข้อมูลของ Zootopia ขึ้นมาให้เราทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ประวัติหนัง ประวัตินักแสดง วันเวลา/รอบหนัง สถานที่ฉายหนังที่ใกล้สุด ฯลฯ เป็นต้น

3.Power On/Off

ในส่วนของปุ่ม Power On/Off ได้มีการปรับเปลี่ยนแปลงหน้าตาให้ใช้งานง่าย และดูสวยงามมากยิ่งขึ้น จากเมื่อก่อนที่เป็นเพียงหน้าจอสี่เหลี่ยมป๊อบอัพเด้งขึ้นมา ก็ปรับใหม่ให้มีหน้าตาเป็นไอค่อนเรียบๆสามอันเท่านั้น ซึ่งหน้าตาจะเหมือนใน S6,S6edge ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงแอนดรอยด์เวอร์ชั่นไปก่อนหน้านี้เลยค่ะ

4.Move App

ในส่วนของฟังก์ชั่นการย้ายแอพฯ ตัวนี้เค้าก็ได้ปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้นค่ะ คือเมื่อก่อนหากเราต้องการจะย้ายแอพฯ ก็ต้องกดค้างแล้วลาก ลากข้ามหน้าต่างไปบ้างไม่ไปบ้างทีละแอพฯ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องยุ่งยากละค่ะเค้าเพิ่มฟังชั่นในการเคลื่อนย้ายแอพฯครั้งละหลายๆอันมาให้ คือ เราสามารถเลือกแอพที่ต้องการจะย้ายไปพักไว้ด้านบนดังในรูปค่ะ จากนั้นเปิดหน้าที่เราต้องการจะเอาแอพฯเหล่านี้ไปวาง จากนั้นก็ทำการลากลงมาวางบนหน้าที่เราต้องการได้เลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ ^^

5.App Permission

ในส่วนของแอพเพอร์มิชชั่นหรือการอนุญาตการเข้าถึงแอพฯ แปลตรงตัว Permission นั้นแปลว่า การอนุญาต ซึ่งมีอยู่ใน Android Smartphone และทุกครั้งก่อนที่จะติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ มันก็จะแสดงรายการของ Permission ซึ่งก็คือ การขออนุญาตเราเพื่อให้เราอนุญาตให้แอพพลิเคชั่นนั้นๆ เข้าถึงข้อมูลในเครื่องของเรา และสามารถนำไปใช้ได้นั่นเอง การที่แอพพลิเคชั่นขอ Permission หรือการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของเรานั้น เป็นกฎของทาง Google ว่า ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ถ้าต้องการจะใช้ข้อมูลในเครื่องของผู้ใช้ในด้านใดก็ตาม จะต้องทำการขอ Permission ในด้านนั้นๆ เสียก่อน ซึ่ง Permission ที่จะขอเข้าถึง จะต้องแสดงอยู่ในหน้าก่อนติดตั้งทุกแอพพลิเคชั่น ซึ่งระบบ App Permission นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ Android Marshmallow สามารถเลือกได้ว่าในแต่ละแอปพลิเคชันจะอนุญาตให้มีการเข้าถึงฟีเจอร์ใดบ้าง เช่น ถ้าคุณไม่ต้องการให้ Facebookใช้ระบบ Location คุณก็สามารถปิดการใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวได้ทันทีเลยค่ะ

6.Theme Store

Theme Store ที่เต็มไปด้วยรูปแบบลักษณะสีสันที่แตกต่างกันซึ่งธีมส่วนใหญ่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ แต่ก็จะมีส่วนน้อยที่เสียเงินค่ะ ถ้าเพื่อนๆอยากเปลี่ยนธีมเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองก็ลองไปเลือกโหลดกันได้ฟรีๆที่ Theme Store  นะคะ วิธีการเข้าไปโหลดสามารถทำตามวิธีด้านล่างเลยค่ะ

  1. กดค้างบนหน้าจอหลัก
  2. แตะเลือกที่ “ธีม”
  3. เลือกหนึ่งในรูปแบบก่อนโหลดหรือแตะ “ธีมเพิ่มเติม”
  4. เลือกธีมที่จะลอง
  5. แตะที่ปุ่ม “ดาวน์โหลด”
  6. เมื่อดาวน์โหลดแล้วก็สามารถติดตั้งธีมได้ทันทีค่ะ

7.Doze Mode 

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในจัดการแบตเตอรี่ โดยช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น โดยการเปิดโหมดประหยัดพลังงาน Ultra Power Saving mode เท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุของแบเตอรี่ที่เหลืออยู่น้อยนิดให้อยู่นานขึ้น ในกรณีที่แบตเราจะหมด เพื่อนๆเปิดโหมดนี้ปุ้บโทรศัพท์ก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหน้าจอจะเป็นขาว-ดำ

8.Edit Quick Setting

อย่างที่เราทราบกันดีว่าการตั้งค่าบนตัวเครื่องสมาร์ทโฟนของเรานั้นมีการตั้งค่าอยู่เป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่ากว่าจะหาเจอหรือกว่าจะเข้าถึงการใช้งานที่ต้องการนั้นๆ เพื่อนๆอาจต้องใช้เวลานานพอสมควรที่จะเข้าถึง ฉะนั้นเราควรตั้งค่าสิ่งที่เราใช้งานบ่อยๆมาไว้บนแท็บหน้าจอเพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส มาดูวิธีการตั้งค่ากันค่ะ

  1. เข้าไปที่  Settings
  2. เลือก “Edit” ที่มุมบนขวามือ
  3. สามารถเลือกได้สูงสุดถึง 9 ข้อโดยการติ๊กเลือกที่หน้าสิ่งที่เพื่อนๆใช้งานบ่อยๆ

ถ้าหากมีข้อมูลเพิ่มเติมยังไง แอดมินจะนำมาบอกให้เพื่อนๆ ทราบกันนะคะ ^^ สามารถติดตามอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Samsungparty

ที่มา Tim Schofield (Qbking77)