พิสูจน์ 9 ฟีเจอร์เด็ดบน Galaxy S9 และ S9 plus พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษถึง 8 มี.ค.นี้เท่านั้น
แอบได้ยินเสียงบ่นพึมพำจากคนรอบข้างมากมายว่า Galaxy S9 และ S9 Plus นั้นไม่เห็นจะมีไรเปลี่ยนเลย ดูยังไงไป ก็เหมือนเดิมเป๊ะ แค่เพิ่มสีใหม่มาไม่เห็นมีไรว้าวเลยยย ….. เดี๋ยวววววว ! นี่ได้ไปลองจับลองเล่นฟีเจอร์ที่เค้าให้มากันแล้วรึยัง !? อ่ะเอางี้ ถ้ายังไม่ได้ลองเล่นเครื่องจริงๆ ก็มาดูสิ่งที่เรากำลังจะสาธยายต่อไปนี้ ว่ามันเปลี่ยนตรงไหนอะไรยังไงบ้างอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปกันไปไกลฮะ
รวม 9 ฟีเจอร์เด็ด Galaxy S9 และ S9 Plus
F /1.5 ถ่ายภาพสวยแม้ในที่แสงมาก และในที่แสงน้อย
อ่ะเริ่มที่หัวข้อแรกกันเลยดีกว่า ” ถ่ายภาพสวยแม้ในที่แสงน้อย ” ถ้าฟังจากตามชื่อเลยอาจจะดูไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ เพราะรุ่นก่อนก็บอกงี้ … เอาเป็นว่าไปดูภาพตัวอย่างสำหรับการทดสอบกล้องเมื่อวันงานเปิดตัวที่ทางซัมซุงได้จัดสถานที่มาให้ได้เทสประสิทธิภาพของกล้องกันเลยดีกว่า ตัวนี้กล้องถูกปรับเป็นโหมด Auto ซึ่งรูรับแสงจะถูกปรับอัตโนมัติตามสภาวะแสงในขณะนั้น ซึ่งในภาพนี้รูรับแสงอยู่ที่ F/1.5 นั้นเอง ซึ่งเป็นรูรับแสงที่กว้างมากที่สุดในบรรดากล้องมือถือที่มีอยู่ในบ้านเราแล้วฮะ
Live Focus มาพร้อม Bokeh Filters
ความพิเศษอีกอย่างนึงที่เปลี่ยนไปของกล้องในซีรี่ย์ S นั้นก็คือ การใส่โหมด Live Focus ที่มีอยู่บน Galaxy Note 8 มาให้บน Samsung Galaxy S9 plus และเพิ่มลูกเล่นพิเศษให้มีความว้าวกว่าไลฟ์โฟกัสบน NOte 8 นั่นก็คือ Bokeh Filters ที่มาให้เลือกใช้กันมากมายหลายแบบเลยทีเดียว อาทิ โบเก้รูปดาว รูปหัวใจ และรูปผีเสี้อ เป็นต้น เรามาดูภาพตัวอย่างกันเลยดีกว่าว่าจะน่ารักแค่ไหน
Dual Apature จะแสงน้อยแสงมากก็ปรับได้เหมือนกล้องจริง
ในส่วนของความพิเศษนี้นับเป็นครั้งแรกของโลกเลยก็ว่าด้ที่มือถือมีวิวัฒนาการเรื่องของการถ่ายภาพได้เหมือนกล้องจริงๆ เข้าไปทุกวัน ๆ ซึ่งใน S9 และ S9 พลัสนี้ เค้าเพิ่มความสามารถพิเศษมาให้คือ สามารถปรับเลือกรูรับแสงได้เองได้ตามความเหมาะสมของแสง ซึ่งเมื่อก่อนรูรับแสงของกล้องมือถือจะเป็นแบบฟิกค่ามาเลย จะไม่สามารถเลือกได้
ในรุ่นนี้เลือกค่ารูรับแสงได้นะเออ มี 2 ค่าด้วยกัน คือ F /1.5 สำหรับพื้นที่ที่มีแสงน้อยมาก และ F/2.4 สำหรับพื้นที่ที่มีแสงสว่างค่อนข้างมาก ซึ่งตัวนี้จะให้สามารถถ่ายภาพในสาวะแสงต่างๆ ออกมาได้สวยอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว และอีกหนึ่งความดีงามอีกอย่างที่จะช่วยให้ภาพออกมาดี นั้นก็คือ Super speed duo pixel sensor ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลด Noise ได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับ Galaxy S8 หรือ S8+ อีกด้วย
Dual Camera ที่มีระบบป้องกันสั่น Dual OIS
ในกาแลคซี่ เอส 9 พลัส มีระบบป้องกันการสั่น Dual OIS มาให้และกล้องคู่นี้ก็สามารถใช้โหมด Live Focus ถ่าย 1 ช็อตได้ภาพสวยจาก 2 มุมมอง พร้อมปรับระดับหน้าชัดแบ็
Super Slow-mo อีกขั้นของการถ่ายสโลโมชั่น
จากเมื่อก่อนจากที่เคยเก็บภาพได้เพียง 240 เฟรมต่อวินาที ตอนนี้เอส 9 นั้นก็ยกระดับไปอีกขั้นของการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่สามารถบันทึกได้มากถึง 960 เฟรมต่อวินาที โดยใช้เซ็นเซอร์ความเร็วสูงทำให้การบันทึกช่วงเวลาดี ๆ ในโหมดซุปเปอร์สโลโมชั่นให้ออกมาสวยงาม และเห็นทุกรายละเอียดการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน แต่ในโหมดนี้จะรองรับความละเอียดได้ที่ระดับ HD เท่านั้น และสามารถถ่ายช็อต Super Slow-mo ได้สูงสุด 20 ช็อตต่อวิดีโอ ซึ่งแต่ละช๊อทใช้เวลาในการบันทึกสูงสุด 0.2 วินาทีและเล่นได้ 6 วินาทีโดยประมาณ เท่านั้นยังไม่พอคุณสามารถสร้างวิดีโอ Super Slow-mo ไว้แชร์กับเพื่อนได้ สามารถเพิ่มเพลงลงในวิดีโอของคุณด้วยเพลงที่มีโหลดไว้ให้ หรือใช้เพลงจากเพลย์ลิสต์ของคุณเองก็ได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังสามารถเอาวิดีโอไปทำเป็นไฟล์ GIF ที่มีรูปแบบการวนซ้ำได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ไปข้างหน้า ย้อนกลับ หรือไปกลับ ได้แต่ในส่วนนี้จะไม่สามารถเพิ่มเพลงลงใน GIF ได้ค่ะ
AR Emoji สร้างสติ๊กเกอร์และอวตารสุดน่ารัก
ถัดมาในส่วนของ AR Emoji ตัวนี้ก็จะเป็นโหมดสำหรับการสร้าง Avatar AR , VDO, GIF และสติ๊กเกอร์ของตัวเราเองได้ง่ายๆ ซึ่งสามารถสร้างสติ๊กเกอร์ได้ซึ่งมีรูปแบบอารมณ์ทั้ง 18 แบบ โดยจะถูกสร้างขึ้นแบบโดยอัตโนมัติ แถมยังทำเป็นไฟล์ GIF ดุ๊กดิ๊ก หรือเป็นไฟล์ VDO เคลื่อนไหวพร้อมเสียงพูดได้ด้วย
ปรับตำแหน่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
หลังจากที่มีเสียงฟีดแบคสำหรับปุ่มสแกนลายนิ้วมือในรุ่นซัมซุงกาแลคซี่ S8/S8+ ออกมาอย่างหนาหูว่า ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่โอเคกับตำแหน่งนี้ จะสแกนทีไรวางนิ้วโดนเลนส์กล้องทุกที พอจะถ่ายรูปเลนส์ก็มัวไปอีก สแกนติดบ้างไม่ติดบ้างวางนิ้วไม่ค่อยจะตรงเพราะตำแหน่งไม่ถนัด พอมาในรุ่นเอส 9 นี้ ทางซัมซุงเค้าก็เลยจับเจ้าตัวสแกนลายนิ้วมือย้ายซะเลย โดยเอาลงมาไว้ข้างล่างของกล้องจากเดิมที่อยู่ด้านข้าง ทำให้ตำแหน่งการวางนิ้วเพื่อสแกนนั้นตรงมากขึ้นและไม่พลาดไปโดนกล้องเหมือนอย่างใน S8 /S8+ แล้ว
Intelligent Scan
ระบบปลดล๊อกที่รวมฟีเจอร์แสกนม่
Bixby Live Translation
แพลทฟอร์มอัจฉริยะของซัมซุงที่ใช้เทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) ที่สามารถแปลภาษาได้ถึง 54 ภาษา เพียงแค่เปิดกล้อง กด Bixby Vision แล้วส่องไปยังภาษาที่เราต้องการจะแปลเพียงเท่านี้ก็รู้ความหมายโดยไม่ต้องเซิจกูเกิ้ลให้ยุ่งยากอีกต่อไปสะดวกสบายใช้งานง่ายมากๆเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปทำการจองได้ผ่าน 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ ซัมซุง แบรนด์ ช้อป ทั่วประเทศ ร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงที่ S-eStore หรือผ่าน Lazada รวมถึงสาขาที่ร่วมรายการของพาร์ทเนอร์ ผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรู ที่มีโปรโมชั่นพิเศษให้ส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 10,000 บาทขึ้นไป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black สีฟ้าCoral Blue และเฉดสีใหม่ล่าสุด สีม่วง Lilac Purple โดยรุ่น กาแลคซี่ เอส 9 มาในความจุขนาด 64GB วางจำหน่ายที่ราคาเครื่องละ 27,900 บาท และรุ่น กาแลคซี่ เอส 9 พลัส สามารถเลือกความจุภายในตัวเครื่องขนาด 64GB ในราคาเครื่องละ 31,900 บาท และ 128 GB ในราคา 33,900 บาท และพิเศษ 256GB ในราคา 37,900 บาท เฉพาะช่องทางของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการ สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ >> www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-S9 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าซัมซุง โทร 02-689-3232